Android

vivoเปิดตัวX80 Series 5G สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดในไทย กับแนวคิด Cinematics. Redefined. เปิดนิยามใหม่ถ่ายวิดีโอระดับมืออาชีพ ด้วยเทคโนโลยีจาก ZEISSในราคาเริ่มต้น 29,999 บาท

X80 Series 5G_Product KV
  • vivo ประกาศเปิดตัว vivo X80 Series 5G สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดในไลน์อัป X Series อย่างเป็นทางการโดดเด่นด้วยฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอมืออาชีพด้วยเลนส์คุณภาพระดับโลกที่ร่วมมือพัฒนากับ ZEISS
  • เอาใจสายถ่ายคอนเทนต์วิดีโอด้วยฟีเจอร์ระดับมืออาชีพ ZEISS Cinematic Video Bokeh, Professional Portrait และ Superb Night Camera
  • สัมผัสประสบการณ์การถ่ายภาพที่เหนือกว่า ด้วยชิปประมวลผลภาพvivo V1+ พัฒนาขึ้นโดย vivo
  • เตรียมวางจำหน่าย 2 รุ่น ได้แก่ vivo X80 5G ที่ราคา 29,999 บาท และ vivo X80 Pro 5G ที่ราคา 39,999 บาท

 

 

กรุงเทพฯ19พฤษภาคม2565 –vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลกประกาศเปิดตัว
vivo X80 Series5Gสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดจากไลน์อัป X Seriesในประเทศไทยอย่างเป็นทางการที่จะมายกระดับประสบการณ์ถ่ายวิดีโอระดับมืออาชีพให้แก่ผู้ใช้งานมาพร้อมกับเทคโนโลยีเลนส์กล้องระดับโลกที่ร่วมมือกับZEISSพัฒนาขึ้นเพื่อสร้างที่สุดแห่งประสบการณ์การถ่ายภาพและวิดีโอบนสมาร์ตโฟนจับคู่กับ
ชิปประมวลผลภาพระดับโปรที่พัฒนาขึ้นโดย vivo อย่างชิปvivo V1+รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเพื่อเพิ่มคุณภาพรูปถ่ายและวิดีโอบนสมาร์ตโฟนให้เหนือกว่าที่เคยพร้อมสเปกเครื่องเร็ว แรง มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้งานvivo X80 Series 5G มีให้เลือกทั้งรุ่นX80 5Gเตรียมวางจำหน่ายในราคา29,999บาท
และ X80 Pro 5Gในราคา 39,999 บาท

 

 

มอบประสบการณ์การถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียม

vivo X80 Series5Gสมาร์ตโฟนที่รวมคุณสมบัติด้านการประมวลภาพอันดีเยี่ยมทั้งจากซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่ได้รับการพัฒนาจาก X Seriesรุ่นก่อน รวมถึงยังคงรักษาคุณสมบัติระดับเรือธงในด้านการถ่ายภาพและวิดีโอไว้ ให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การถ่ายภาพและวิดีโอระดับมืออาชีพได้อย่างน่าทึ่ง โดยกล้องหน้าของ vivo X80 Series5Gทั้งสองรุ่นมีความละเอียด 32MP ในขณะที่กล้องหลังของรุ่น X80 Pro 5G จะใช้กล้องหลัง 4 ตัว โดยกล้องหลักมีความละเอียดที่ 50MPที่มาพร้อมเซนเซอร์ Ultra-Sensing GNV และGimbal Stabilizationกล้อง Wide-Angleความละเอียด 48MP กล้อง Portrait ความละเอียด12MP และกล้อง Periscopeความละเอียด8MP ในขณะที่รุ่น X80 5G จะใช้ระบบกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลักความละเอียด 50MP ที่มาพร้อมUltra-Sensing Sensorกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด12MP และกล้อง Portrait 12MP

 

นอกเหนือจากการพัฒนาระบบของเลนส์กล้องบน vivo X80 Series 5Gแล้ว เพื่อมอบประสบการณ์การถ่ายภาพและวิดีโอระดับพรีเมียมกับเทคโนโลยีvivo X80 Series5Gยังมาพร้อมกับชิปประมวลผลภาพที่พัฒนาขึ้นโดย vivo ในชื่อว่าvivo V1+ ซึ่งเป็นชิปที่พัฒนาด้วยระบบ AI ในตัวเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพภาพระดับมืออาชีพอีกทั้งในรุ่นX80 Pro มีคุณสมบัติ AI Video Enhancement เข้ามาเสริมประสิทธิภาพเพื่อช่วยให้อุปกรณ์สามารถสลับโหมดระหว่างวิดีโอ HDR และโหมดกลางคืนได้โดยอัตโนมัติอีกด้วย

 

เทคโนโลยีภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหวระดับมืออาชีพพัฒนาร่วมกับZEISS

vivo X80 Series5Gเป็นผลงานที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอระดับมืออาชีพบนสมาร์ตโฟน รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงการร่วมมือเป็นพันธมิตรกันอย่างต่อเนื่องระหว่าง vivo และผู้ผลิตเลนส์กล้องชั้นนำระดับโลกอย่าง ZEISSมามอบประสบการณ์ล้ำหน้าทางเทคโนโลยีการถ่ายภาพและวิดีโอ เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคบันทึกช่วงเวลาอันมีค่าได้ครบถ้วนทุกมุมมอง

 

โดยvivo X80 Series5G ได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีการถ่ายวิดีโอบนสมาร์ตโฟนจาก ZEISS ในคุณสมบัติที่ชื่อว่า ‘ZEISS Cinematic Video Bokeh’ช่วยทำให้วิดีโอที่ถ่ายออกมามีความกว้างมากขึ้นเหมือนเอฟเฟกต์จากเลนส์anamorphicในอัตราส่วนภาพ2.39:1 ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจับภาพวิดีโอได้สวยงามสมจริง และมุมมองที่นำเสนอออกมาเสมือนการถ่ายภาพยนตร์มาพร้อมกับคุณสมบัติสำหรับการถ่ายภาพZEISS Superb Portrait ที่ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้าไปอย่างZEISS Cinematic Style Bokehที่ช่วยสร้างเอฟเฟกต์แสงแฟลร์สำหรับภาพถ่ายให้ภาพออกมาเสมือนภาพจากฟิล์มบนจอภาพยนตร์นอกจากนี้vivo ยังพัฒนาคุณสมบัติการถ่ายภาพกลางคืนจาก ZEISS Superb Night Camera โดยการเพิ่มคุณสมบัติที่ปรับปรุงใหม่อย่างฟีเจอร์ Pure Night View ที่ทำให้ vivo X80 Series5Gสามารถเก็บภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืนได้อย่างคมชัดสมจริง

 

Chipset+Spec_X80 Chipset+Spec_X80 Pro

ประสิทธิภาพการใช้งานระดับแฟลกชิป

 

ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำของ vivo ในการพัฒนาประสิทธิภาพการถ่ายภาพและวิดีโอบนสมาร์ตโฟน vivo X80 Series5Gจึงถูกออกแบบให้สเปกภายในตัวเครื่องทรงพลัง พร้อมตอบโจทย์การใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกด้าน vivo X80 Pro 5Gขับเคลื่อนด้วยขุมพลังชิปเซตSnapdragon 8 Gen 1 ในขณะที่รุ่น X80 5G ขับเคลื่อนด้วยMediaTek Dimensity9000มอบประสิทธิภาพในการประมวลผลของ CPU และ GPU ขั้นสูงสุด โดยโปรเซสเซอร์ทั้งสองชุดนี้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อ 5G ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและยังช่วยประหยัดพลังงานกว่า X Seriesรุ่นก่อน อีกทั้งX80 Series5Gยังได้รับการเสริมประสิทธิภาพด้วย RAMLPDDR5 และหน่วยความจำภายใน(ROM)UFS3.1เพิ่มความเสถียรภาพในการใช้งานและเพิ่มขนาดความจุในการจัดเก็บข้อมูลภายในตัวเครื่องมากยิ่งขึ้น

 

นอกจากนี้ X80 Pro5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4700mAhและ X80 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ 4500mAhรองรับ FlashCharge80Wโดยที่รุ่น X80 Pro5G ได้รับการเสริมการรองรับ Wireless FlashCharge 50W ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเต็มที่กับกิจกรรมยาวนานตลอดทั้งวันโดยทั้งสองรุ่นติดตั้งจอแสดงผลขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2K WQHDพร้อมอัตราการรีเฟรชสูงสุดที่ 120Hzเพื่อการใช้งานที่ลื่นไหลกว่าที่เคย

 

vivoX80 series_4

ดีไซน์ใหม่ให้ความรู้สึกเหมือนใช้กล้องมืออาชีพ

จากการมุ่งมั่นพัฒนา vivo X80 Series 5G ให้สมกับเป็นสมาร์ตโฟนระดับเรือธงที่จะสร้างสุดยอดประสบการณ์ด้านการถ่ายภาพและวิดีโอบนมือถือ รูปร่างของสมาร์ตโฟน X80 Series5Gจึงแตกต่างจาก X Seriesรุ่นก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากกล้องถ่ายภาพมืออาชีพ ที่มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า และกล้องหลักถูกจัดวางเป็นทรงกลมใหญ่แบบ Circular อยู่ด้านหลัง เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดการถ่ายภาพและวิดีโอระดับมืออาชีพบนสมาร์ตโฟน อีกทั้งวัสดุตัวเครื่องยังเป็นเฟรมโลหะ ฝาหลังกระจกถูกเคลือบด้วยเทคโนโลยี Fluorite AGพร้อมมอบสัมผัสสุดพรีเมียมให้แก่ผู้ใช้งาน

 

vivo X80 Pro 5G - official price

โดยvivo X80 Pro 5Gและ X80 5G วางจำหน่ายในสี Cosmic Blackและ Urban Blueซึ่งสี Cosmic Black ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องฟ้ายามค่ำคืนและพลังอำนาจของจักรวาล โดยใช้สีดำที่เป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความยิ่งใหญ่ของจักรวาล เสริมด้วยกลิตเตอร์สีเงินที่เปรียบเหมือนดวงดาวท่ามกลางท้องฟ้าในคืนอันมืดมิด ในขณะที่สี Urban Blue ได้แรงบันดาลใจจากสีฟ้าอ่อนของท้องทะเลที่ห่างไกลจากความวุ่นวายของชีวิตในเมือง ให้ความรู้สึกสงบผ่อนคลายและสุนทรี

 

vivo X80 Series 5Gทั้งสองรุ่นจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการพร้อมกันในวันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม2565โดย vivoX80 Pro 5Gจำหน่ายในราคา 39,999บาทและ vivo X80 5Gจำหน่ายในราคา 29,999บาท
vivo Brand Shop ทุกสาขาตัวแทนจำหน่ายชั้นนำBaNANA, IT City, CSC, Jaymart, TG FONE, KINGKONG, BKK, Singer, Big C, Maxlink, Power Mall, Stamp และAdviceและผู้ให้บริการเครือข่ายAIS, True, Dtac รวมถึงvivo Official Store บนร้านค้าออนไลน์ชั้นนำทั้งLAZADA, Shopee, JD Central และThisshop

และเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสมาร์ตโฟนระดับโลกที่พร้อมจะส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ผู้ใช้งานทั่วโลกในปีนี้ vivoยังคงเป็นผู้ร่วมผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของการแข่งขันฟุตบอลระดับโลกที่แฟนกีฬาต่างตั้งตารอคอยอย่างFIFA World Cup เป็นสมัยที่2 ตั้งแต่ปี2018 จนถึงครั้งล่าสุดFIFA World Cup Qatar 2022ในช่วงปลายปีนี้เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจให้แฟนฟุตบอลทุกเพศทุกวัยทุกเชื้อชาติและเชื่อมต่อvivo fans ทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกันซึ่งvivo ได้กลายมาเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนที่เจ้าหน้าที่ของฟีฟ่านำมาใช้งานเป็นสมาร์ตโฟนหลักอย่างเป็นทางการ (Official Smartphone) ตลอดการแข่งขันตั้งแต่ปี2017

 

นอกจากนี้vivo ประเทศไทยยังเตรียมปล่อยภาพยนตร์สั้นเรื่องแรกThe Final Escape – ทางหนีไฟ’ที่ถ่ายด้วยสมาร์ตโฟนvivo X80 Series 5Gทั้งเรื่องโดยฝีมือผู้กำกับชื่อดังกอล์ฟ-ปวีณภูริจิตปัญญาและได้นักแสดงชายแถวหน้าของเมืองไทยบอย-ปกรณ์ฉัตรบริรักษ์มาเป็นนักแสดงนำในเรื่องอีกด้วยโดยvivo จะมีการฉายภาพยนตร์สั้นดังกล่าวบนจอของโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์พารากอนซีนีเพล็กซ์เป็นครั้งแรกในงานThe Final Escape Gala Premiereวันพุธที่25พฤษภาคม2565นี้รวมทั้งบนช่องทางเฟสบุ๊กและยูทูบของvivo Thailand ในวันศุกร์ที่3มิถุนายน2565นี้

 

ติดตามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่https://www.vivo.com/th และ เฟซบุ๊ก vivo Thailand

 

#vivoX80Series5GLaunch #CinematicsRedefined

#ทางหนีไฟTheFinalEscape#ShotonvivoX80Series5G

#FIFAWorldCup2022

 

###





Click to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

To Top