อะโดบียังคงครองอันดับสูงสุดด้านความสมบูรณ์แบบด้านวิสัยทัศน์ในผลการศึกษาเมจิกควอแดรนท์
กรุงเทพฯ —8 สิงหาคม 2561—อะโดบี (Nasdaq:ADBE) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับอยู่ในกลุ่มผู้นำ (Leader) เป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน ตามที่ระบุไว้ในรายงานวิจัยเมจิกควอแดรนท์สำหรับ “การจัดการเว็บคอนเทนต์” (Magic Quadrant for Web Content Management) ประจำปี 2561 ซึ่งจัดทำโดยบริษัท การ์ทเนอร์ โดยอะโดบีครองอันดับสูงสุดในด้านความสมบูรณ์ของวิสัยทัศน์ ทั้งนี้รายงานดังกล่าวประเมินบริษัทผู้ผลิตเทคโนโลยี 18 รายตามความสามารถในการดำเนินงานและความสมบูรณ์ของวิสัยทัศน์
นางสาวโลนี สตาร์ค หัวหน้าฝ่าย Adobe Experience Manager และ Adobe Targetกล่าวว่า “แบรนด์ต่างๆ มุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่น่าประทับใจ แต่ปัจจุบันช่องทางการติดต่อมีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นองค์กรจำนวนมากจึงประสบปัญหาในการนำเสนอเนื้อหาคอนเทนต์ที่ปรับแต่งเป็นพิเศษสำหรับแต่ละช่องทาง ไม่มีบริษัทใดที่มีความเชี่ยวชาญเทียบเท่ากับอะโดบีในเรื่องของการเชื่อมต่อข้อมูลเข้ากับคอนเทนต์ ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานหลายทศวรรษในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ และธุรกรรมของลูกค้ากว่า 7 ล้านรายการที่ได้รับการประมวลผลในแต่ละวินาที อะโดบีช่วยให้แบรนด์ต่างๆ ปรับเปลี่ยนคอนเทนต์ได้อย่างรวดเร็วตามบริบทที่เกี่ยวข้องสำหรับอุปกรณ์ที่เหมาะสม โดยครอบคลุมสเกลขนาดใหญ่มาก”
การ์ทเนอร์ให้คำนิยามสำหรับการจัดการเว็บคอนเทนต์ (Web Content Management – WCM)ว่าหมายถึง “กระบวนการควบคุมเนื้อหาคอนเทนต์บนช่องทางดิจิทัล โดยใช้โซลูชั่นการจัดการที่เฉพาะเจาะจงบนคลังเก็บข้อมูลส่วนกลาง”
Adobe Experience Manager ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Adobe Experience Cloud ช่วยให้นักการตลาดและบุคลากรฝ่ายไอทีสามารถคาดการณ์และนำเสนอประสบการณ์คอนเทนต์ที่ปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว แพลตฟอร์มการจัดการคอนเทนต์อัจฉริยะของอะโดบี Experience Manager Sites ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถสร้างและจัดการคอนเทนต์ได้อย่างชาญฉลาดและปลอดภัย โดยครอบคลุมทั้งในส่วนของเว็บ, โมบายล์, อุปกรณ์ IoT และจอภาพที่ติดตั้งไว้ตามสถานที่ต่างๆ ลูกค้าจะสามารถเชื่อมต่อแอสเซ็ทจาก Adobe Creative Cloud เข้ากับประสบการณ์ที่นำเสนอโดย Experience Manager ได้อย่างไร้รอยต่อ Experience Managerเป็นบริการคลาวด์ที่ทำงานแบบอัตโนมัติได้อย่างเหนือชั้น ช่วยให้ฝ่ายการตลาดและฝ่ายไอทีสามารถปรับเปลี่ยนและปรับแต่งรายละเอียดได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โดยฟีเจอร์ต่างๆ ที่ขับเคลื่อนด้วย Adobe Sensei ใน Experience Manager ช่วยให้สามารถปรับแต่งประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคลในขอบเขตที่กว้างขวางและสร้างผลกระทบในระดับที่เหนือกว่า Experience Manager ถูกใช้งานโดยองค์กรขนาดใหญ่และขนาดกลาง เช่น Hyatt, Nissan Motor Co., Informatica, Manulife, Maxim Integrated, Morningstar, Silicon Labs, Synopsys, 24 Hour Fitness และการท่องเที่ยวของออสเตรเลีย
เกี่ยวกับ Adobe Experience Cloud
Adobe Experience Cloud ประกอบด้วยโซลูชั่นแบบครบวงจรที่นำเสนอเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถนำเสนอประสบการณ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและมีการปรับแต่งให้สอดรับกับลูกค้าผ่านทุกช่องทางการติดต่อสื่อสาร บริการดังกล่าวครอบคลุมการจัดการและปรับแต่งประสบการณ์บนทุกหน้าจอและทุกอุปกรณ์ พร้อมทั้งนำเสนอประสบการณ์ผ่านโฆษณา วิดีโอ และช่องทางอื่นๆ รวมไปถึงการวิเคราะห์ข้อมูล ด้วยการเชื่อมโยงกับ Adobe Creative Cloud จึงเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการเรียกใช้แอสเซ็ทด้านงานครีเอทีฟผ่านทุกช่องทางการตลาดและทุกช่องทางการติดสื่อสารกับลูกค้า
แบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกไว้วางใจเลือกใช้ Adobe Experience Cloud ในการดำเนินธุรกิจ เช่น Carnival Corporation, Dun & Bradstreet, Nissan Motor Co., Philips, T-Mobile, การท่องเที่ยวของออสเตรเลีย และองค์กรอื่นๆ อีกมากมาย Adobe Experience Cloud ช่วยให้ลูกค้าจัดการธุรกรรมข้อมูลกว่า 233 ล้านล้านรายการในแต่ละปี รวมถึงคำร้องขอสื่อริชมีเดีย 41 ล้านล้านรายการ อีเมลกว่า 150,000 ล้านฉบับ และงบโฆษณากว่า 3 พันล้านดอลลาร์
ที่มา: Gartner Inc., “Magic Quadrant for Web Content Management,” Mick MacComascaigh, Jim Murphy, 30 กรกฎาคม 2561
การ์ทเนอร์ไม่ได้รับรองผู้ประกอบการ ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่อยู่ในรายงานนี้ และไม่ได้แนะนำให้ผู้ใช้เลือกเฉพาะเทคโนโลยีที่อยู่ในอันดับสูงสุดหรือสถานะอื่นแต่อย่างใด รายงานของการ์ทเนอร์ประกอบด้วยความเห็นของฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ และไม่ถือเป็นการระบุข้อเท็จจริง การ์ทเนอร์ไม่ได้รับประกันใดๆ ไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยนัย ในส่วนที่เกี่ยวกับงานวิจัยนี้ รวมถึงการรับประกันเรื่องความสามารถในการจำหน่ายหรือความเหมาะสมสำหรับจุดประสงค์ที่เฉพาะเจาะจง
