กรุงเทพฯ 19 กรกฎาคม 2564 – vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลกเดินหน้าดำเนินการทดสอบเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ5G SA (Stand Alone) ในประเทศไทยร่วมกับเครือข่ายAIS 5G ที่มีคลื่นครบที่สุดปริมาณมากสุดพร้อมครอบคลุมสูงสุดซึ่งได้รับผลการทดสอบที่ยอดเยี่ยมและน่าประทับใจในการพัฒนาครั้งนี้จะนำไปสู่การเร่งติดตั้งเครือข่าย5G SA เชิงพาณิชย์ในประเทศไทยให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นและมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย 5G ที่เร็วและแรงแบบไม่มีสะดุดให้กับกลุ่มผู้ใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทยโดยสามารถใช้งานvivo V21 5G สมาร์ตโฟนvivo รุ่นแรกที่รองรับเครือข่าย5G SA ในประเทศไทยได้แล้ววันนี้ซึ่งจะให้บริการผ่านเครือข่ายAIS ผู้นำเครือข่าย5G เป็นรายแรกในไทย
ความร่วมมือกับAIS 5G ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่vivo ได้เข้าร่วมการทดสอบเครือข่าย5G SA เชิงพาณิชย์นอกตลาดประเทศจีนอย่างเป็นทางการและถือได้ว่าvivo นั้นเป็นหนึ่งในบริษัทสมาร์ตโฟนกลุ่มแรกๆที่ได้เข้าร่วมการทดสอบ5G SA ในประเทศไทยร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายสื่อสารเคลื่อนที่อย่างเป็นทางการอีกด้วยโดยvivo V21 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่ถูกนำไปใช้ในการทดสอบภาคสนามอย่างจริงจังในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเป็นผู้นำด้านวิจัยและพัฒนาในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี5G อย่างสมบูรณ์แบบของvivo
vivo V21 5G สมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดซึ่งเป็นสมาชิกใหม่ตระกูลV Series พร้อมมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่ทั้งลื่นไหลมีประสิทธิภาพและทรงพลังกว่าที่เคยผ่านเทคโนโลยี5G สุดล้ำของvivo พร้อมทำงานร่วมกับทุกแอปพลิเคชันที่หลากหลายยิ่งขึ้นโดยสมาร์ตโฟนที่รองรับการเชื่อมต่อ5G แบบDual-mode (SA และNSA) จะมาพร้อมกับสิทธิบัตรเทคโนโลยีเสาอากาศ5G (5G antenna) ซึ่งจะช่วยให้สมาร์ตโฟนใช้พลังงานแบตเตอรี่น้อยลงแต่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีและมีการเชื่อมต่อที่เสถียรมากกว่าสมาร์ตโฟนที่รองรับเฉพาะ5G โหมดเดียว (Sin-gle-mode) ซึ่งความสามารถของการเชื่อมต่อ5G ที่ทั้งเร็วและแรงนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานเต็มอิ่มกับคอนเทนต์แบบLive streaming ความละเอียด4K UHD รวมทั้งสนุกกับเกมที่ต้องใช้CPU แบบจัดเต็มระหว่างการเดินทางได้แบบไม่มีสะดุด
Tamrakar Rakesh ผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานระบบเครือข่าย5G ของvivoกล่าวว่า “vivo รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ให้บริการ5G SA ผ่านโครงข่ายของAIS เมื่อใช้งานผ่านสมาร์ตโฟนvivo V21 5G ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนvivo รุ่นแรกที่รองรับเครือข่าย5G SA ในประเทศไทยโดยทางvivo ได้ทำการทดสอบสัญญาณ5G SA เชิงพาณิชย์ของประเทศไทยและvivo เองเป็นผู้มีประสบการณ์ในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆผ่านนวัตกรรมและจุดประสงค์ในการเชื่อมต่อผู้ใช้งานเข้ากับโลกดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบตามแนวทางของบริษัทฯที่มุ่งเน้นผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลางและในฐานะผู้ส่งมอบมาตรฐานการเชื่อมต่อ5G ระดับโลกเรารู้สึกดีใจที่ผู้ใช้งานvivo ในประเทศไทยจะได้รับประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมและเพลิดเพลินไปกับการเชื่อมต่อความเร็วสูงเจเนอเรชันใหม่นี้”
ประเทศไทยได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในการเป็นผู้นำด้านเครือข่ายสัญญาณ5G SA ที่มีความก้าวหน้ามากกว่าตลาดอื่นๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยุโรปแอฟริกาและตะวันออกกลางซึ่งAIS 5G ในฐานะผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมแบบครบวงจรในประเทศไทยทั้งบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตและบริการดิจิทัลได้เริ่มปรับใช้จุด5G SA แล้วทั่วประเทศ
vivo เป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำในประเทศไทยที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภครุ่นใหม่และผู้ที่หลงใหลในเทคโนโลยีโดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายประกอบด้วยซีรีส์V, Y, X, และNex Series ซึ่งผู้ใช้งานvivo สามารถสัมผัสประสบการณ์การเชื่อมต่อสัญญาณ5G ที่มีความเสถียรได้แล้ววันนี้กับvivo V21 5G
vivo ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้บริโภคด้วยการเข้าถึงการเชื่อมต่อ5G กับผลิตภัณฑ์ในทุกช่วงราคาพร้อมทุ่มงบประมาณลงทุนมหาศาลในการวิจัยและพัฒนา(R&D) ซึ่งมีผลการวิจัยสุดล้ำที่ได้รับการจดสิทธิบัตรไปแล้วอาทิการรองรับสัญญาณ5G แบบmulti-simและเทคโนโลยีการประหยัดพลังงานแม้ว่าในความเป็นจริงการเชื่อมต่อสัญญาณ5G ต้องใช้เสาอากาศ(antenna)ในจำนวนที่มากขึ้นแต่ด้วยการดีไซน์แบบ3มิติที่เรียงต่อกันของvivo (3D stack design) จะช่วยให้ฟีเจอร์เหล่านี้สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสมกับตัวเครื่องที่เพรียวบางเป็นพิเศษเพิ่มความเพลิดเพลินของผู้ใช้งานยิ่งขึ้น
นอกจากนี้vivo วางแผนจะขยายความร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายในตลาดอื่นๆได้แก่อินเดียสิงคโปร์มาเลเซียฮ่องกงและไต้หวันเพื่อทำการทดสอบเครือข่ายสัญญาณ5G SA เพิ่มเติมและครอบคลุมมากขึ้นภายในปีนี้
ทั้งนี้สำหรับผู้ใช้งานvivo V21 5G ที่ซื้อเครื่องและใช้งานสัญญาณเครือข่ายของช่องทางAIS สามารถเริ่มใช้งาน5G SA ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ และสำหรับผู้ใช้งานAIS ที่ซื้อเครื่องจากช่องทางอื่นๆจะเริ่มใช้งาน5G SA ได้ตั้งแต่วันที่21 กรกฎาคม2564 เป็นต้นไปโดยการใช้งานผ่านเทคโนโลยี5G SA จะขึ้นอยู่กับทั้งสัญญาณและคลื่นความถี่ของผู้ให้บริการเครือข่าย
###
