Huawei

หัวเว่ยเดินหน้าสู่ยุค 5G เต็มกำลัง เปิดตัวนวัตกรรมเพื่อการสื่อสารแบบไร้สายที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยชิปเซ็ต5Gมัลติโหมดและอุปกรณ์ 5G CPE Pro

Huawei launches the world's first single-chip multi-mode modem

ปักกิ่ง – 25 มกราคม 2019 – หัวเว่ยนำเสนอนวัตกรรมเพื่อการสื่อสารแบบไร้สายที่เร็วที่สุดในโลกเปิดตัวชิปเซ็ตBalong5000 ชิปเซ็ต 5G แบบมัลติโหมดพร้อมกับอุปกรณ์รับส่งสัญญาณ 5G CPE Pro อันเป็นอุปกรณ์เชิงพาณิชย์ซึ่งรองรับการรับส่งข้อมูลแบบ 5G ชิ้นแรกที่ทำงานโดยใช้ชิปเซ็ตรุ่นดังกล่าวนวัตกรรมใหม่ทั้ง 2 รายการนี้ช่วยมอบการเชื่อมต่อการสื่อสารแบบไร้สายได้อย่างรวดเร็วที่สุดสำหรับสมาร์ทโฟน บ้าน ที่ทำงาน หรือขณะเดินทาง

ชิปเซ็ตBalong5000 เป็นชิปเซ็ตที่จะเปิดศักราชใหม่สู่ยุค 5G เนื่องจากชิปเซ็ตนี้สามารถรองรับอุปกรณ์ได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนอุปกรณ์รับส่งสัญญาณบรอดแบนด์ภายในบ้านอุปกรณ์ภายในรถยนต์และโมดูล 5G ประเภทต่างๆผู้บริโภคจึงสามารถสัมผัสประสบการณ์ของการรับส่งข้อมูลที่รวดเร็วในระดับ 5G ได้ทุกที่

 

The Huawei 5G CPE Pro achieves a high speed of 3.2 Gbps in live network tests

ริชาร์ดหยูประธานเจ้าหน้าที่บริหารหัวเว่ยคอนซูมเมอร์บิสสิเนสกรุ๊ปกล่าวว่า “ชิปเซ็ตBalong5000 จะนำผู้บริโภคทุกคนก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่เพราะชิปเซ็ตนี้ช่วยให้แนวคิด 5G กลายเป็นความจริงอีกทั้งช่วยให้กระบวนการรับส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงสำหรับอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆเป็นไปได้นอกจากนี้อุปกรณ์รับส่งสัญญาณ 5G CPE Pro ที่ใช้ชิปเซ็ตBalong5000 เป็นหน่วยประมวลผลกลางนั้นช่วยให้ผู้บริโภคใช้งานเครือข่ายต่างๆได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นและรับส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าที่เคยหัวเว่ยพัฒนานวัตกรรม 5G ในทุกองค์ประกอบทั้ง
ชิปเซ็ตอุปกรณ์ระบบคลาวด์และอุปกรณ์เครือข่ายต่างๆซึ่งความเป็นผู้นำของหัวเว่ยด้านเทคโนโลยี 5G รวมไปถึงการพัฒนาองค์ประกอบต่างๆเหล่านี้จะช่วยให้หัวเว่ยนำเสนอประสบการณ์ที่เป็นเลิศและเปี่ยมประสิทธิภาพสู่ผู้บริโภคทั่วโลกในทุกจังหวะของชีวิต”

ก้าวสู่ยุค 5G กับชิปเซ็ตBalong5000

หัวเว่ยภูมิใจเสนอชิปเซ็ต 5G มัลติโหมดรุ่นแรกของโลกชิปเซ็ตBalong5000 คือชิปเซ็ตตระกูลBalongที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดโดยชิปเซ็ตรุ่นล่าสุดนี้มีขนาดเล็กแต่ผสานนวัตกรรมที่หลากหลายไว้ภายในชิปเซ็ตนี้รองรับการสื่อสารแบบ 2G 3G 4G และ 5G ในตัวจึงสามารถลดทั้งความหน่วงของการรับส่งข้อมูลและพลังงานที่ใช้ขณะรับส่งข้อมูลที่โหมดการทำงานต่างๆได้อีกทั้งยังสามารถช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ในช่วงเวลาที่การสื่อสารแบบ 5G เริ่มใช้งานจริงในเชิงพาณิชย์ได้เช่นกัน

ชิปเซ็ตBalong5000 เป็นชิปเซ็ตรุ่นแรกที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ด้านอัตราการดาวน์โหลดที่ย่านความเร็วระดับ 5G ให้กับอุตสาหกรรมการสื่อสารโดยชิปเซ็ตนี้รองรับความเร็วการดาวน์โหลดได้ถึง 4.6 กิกะบิตต่อวินาทีเมื่อใช้งานที่ย่านความถี่กลุ่มSub-6 GHz หรือคลื่นความถี่ต่ำที่กำหนดให้เป็นคลื่นความถี่หลักสำหรับการสื่อสารแบบ 5G และชิปเซ็ตนี้ยังรองรับความเร็วการดาวน์โหลดได้ตั้งแต่ 6.5 กิกะบิตต่อวินาทีเมื่อใช้งานที่ย่านความถี่กลุ่ม
มิลลิเมตเตอร์เวฟ (mmWave) หรือคลื่นความถี่สูงที่กำหนดให้เป็นคลื่นความถี่เพิ่มเติมสำหรับการสื่อสารแบบ 5G ซึ่งความเร็วในการดาวน์โหลดดังกล่าวเร็วกว่าชิปเซ็ต 4G LTE รุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดที่ใช้ในท้องตลาดปัจจุบันถึง 10 เท่านอกเหนือจากนี้ชิปเซ็ตBalong5000 ยังเป็นชิปเซ็ต 5G รุ่นแรกของโลกที่สามารถใช้งานได้กับโครงข่ายทั้งแบบที่ทำงานได้โดยอิสระ (SA) และแบบที่ต้องทำงานร่วมกับโครงข่ายอื่น (NSA) โดยโครงข่ายแบบที่ต้องทำงานร่วมกับโครงข่ายอื่นนั้นคือโครงข่าย 5G ที่มีการติดตั้งอุปกรณ์เสริมจากโครงข่าย 4G LTE ที่มีอยู่ในปัจจุบันส่วนโครงข่ายที่ทำงานได้โดยอิสระนั้นคือโครงข่าย 5G ที่สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องอิงกับโครงข่ายใดๆยิ่งไปกว่านี้ชิปเซ็ตBalong5000 ยังเป็นชิปเซ็ตที่สามารถปรับแต่งให้สอดคล้องกับผู้ใช้หรือผู้ให้บริการเครือข่ายที่มีความต้องการแตกต่างกันได้เพื่อให้ชิปเซ็ตนี้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องสอดรับกับวิวัฒนาการของการสื่อสารในยุค 5G

ชิปเซ็ตBalong5000 ยังเป็นชิปเซ็ตแบบมัลติโหมดรุ่นแรกของโลกที่รองรับการสื่อสารข้อมูลตามแนวคิดVehicle to Everything – V2X เนื่องจากชิปเซ็ตนี้มีค่าความหน่วงของการรับส่งข้อมูลต่ำและเป็นชิปเซ็ตที่หัวเว่ยพัฒนาให้เป็นโซลูชั่นสำหรับยานยนต์ยุคใหม่ที่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ทั้งนี้หัวเว่ยจะนำเสนอสมาร์ทโฟน 5G รุ่นแรกของบริษัทฯที่จะใช้ชิปเซ็ตBalong5000 ในงานMobile World Congress 2019 ณบาร์เซโลน่า

อุปกรณ์รับส่งสัญญาณหัวเว่ย 5G CPE Pro ยกระดับประสบการณ์การใช้งานเครือข่ายบรอดแบนด์ในบ้าน

อุปกรณ์รับส่งสัญญาณหัวเว่ย 5G CPE Pro มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลถึง 3.2 กิกะบิตต่อวินาทีเมื่อทดสอบบนเครือข่ายจริง

อุปกรณ์รับส่งสัญญาณหัวเว่ย 5G CPE Pro ที่ใช้ชิปเซ็ตBalong5000 นั้นรองรับการสื่อสารข้อมูลไร้สายทั้งแบบ 4G และ 5G เมื่อใช้งานในย่านความถื่ 5G อุปกรณ์นี้สามารถดาวน์โหลดคลิปวิดีโอที่มีขนาด 1 กิกะไบต์ได้ภายใน 3 วินาทีและสามารถสตรีมคลิปวิดีโอความละเอียด 8K ได้แบบไม่มีสะดุดซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของอุปกรณ์รับส่งข้อมูลภายในบ้านและอุปกรณ์รับส่งสัญญาณหัวเว่ย 5G CPE Pro ยังสามารถเป็นอุปกรณ์รับส่งข้อมูลขององค์กรธุรกิจขนาดกลางย่อมและขนาดกลางที่ต้องการความเร็วในการรับส่งข้อมูลในระดับสูงสุดเช่นกัน

อุปกรณ์รับส่งสัญญาณหัวเว่ย 5G CPE Pro รองรับเทคโนโลยีWi-Fi 6 อันเป็นเทคโนโลยีใหม่ของระบบ
Wi-Fi จึงมีความเร็วในการรับส่งข้อมูลถึง 4.8 กิกะบิตต่อวินาทีนอกจากนี้อุปกรณ์รับส่งสัญญาณหัวเว่ย 5G CPE Pro ยังเป็นอุปกรณ์รับส่งสัญญาณแบบ 5G รุ่นแรกที่รองรับโปรโตคอลHUAWEI HiLinkยกระดับสมาร์ทโฟนไปสู่ยุค 5G ได้เต็มรูปแบบ

หัวเว่ยในฐานะผู้บุกเบิกกระบวนการรับส่งข้อมูลแบบ 5G เริ่มต้นการวิจัยและพัฒนาด้านนี้มาตั้งแต่ปี 2009 และเป็นบริษัทเดียวในปัจจุบันที่มีอุปกรณ์โครงข่าย 5G จำหน่ายแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำปัจจุบันหัวเว่ยมีวิศวกรที่ทำงานด้านการวิจัยและพัฒนาด้าน 5G จำนวน 5,700 คนซึ่งรวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านกระบวนการรับส่งข้อมูลแบบ 5G จำนวน 500 คนและมีศูนย์นวัตกรรมร่วมเพื่อพัฒนาโซลูชั่น 5G 11 แห่งทั่วโลก

# # #





Click to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

To Top