Ninefar

องค์กรต่างๆ ในอาเซียนเร่งขยายการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ดิจิทัล ด้วย Red Hat OpenShift Container Platform

แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถพัฒนา, โฮสต์ และขยายขนาดการทำงานให้กับแอปพลิเคชั่นบนระบบคลาวด์ได้อย่างรวดเร็ว

เรดแฮท (NYSE: RHT) ผู้ให้บริการโอเพ่นซอร์สโซลูชั่นชั้นนำของโลกเปิดเผยว่าองค์กรต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนเริ่มใช้ Red Hat OpenShift Container Platform เพื่อให้บริการด้านแอปพลิเคชั่นได้เร็วยิ่งขึ้น องค์กรด้านการสื่อสารโทรคมนาคม และอุตสาหกรรมบริการทางการเงินในอาเซียนกำลังใช้งาน Red Hat OpenShift Container Platform เพื่อช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ของตนสามารถพัฒนา, โฮสต์, และขยายขนาดการทำงานให้กับแอปพลิเคชั่นบนระบบคลาวด์ได้อย่างรวดเร็ว

 

Red Hat OpenShift Container Platform เป็นโซลูชั่นไฮบริดคลาวด์ที่เป็นคอนเทนเนอร์แพลตฟอร์มแรกและแพลตฟอร์มเดียว ที่สร้างจากคอนเทนเนอร์ต่างๆ ที่เป็น Linux, Kubernetes, Project Atomic และ OpenShift Origin ล้วนทำงานบนแพลตฟอร์ม Red Hat Enterprise Linux ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระดับแนวหน้าของโลกและเชื่อถือได้  Red Hat OpenShift Container Platform เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานกับคอนเทนเนอร์ได้อย่างปลอดภัยและเสถียรมากขึ้น โดยไม่ต้องใช้การลงทุนด้านไอทีในปัจจุบัน ช่วยให้งานสำคัญและแอปพลิเคชั่นที่มีอยู่เดิมทำงานร่วมกับแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่ทำงานบนคลาวด์และคอนเทนเนอร์ได้

 

 

Red Hat OpenShift Container Platform ได้รับรางวัล 2017 Cloud Technical Breakthrough เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งเป็นการรับรองนวัตกรรมของเรดแฮทในด้านการพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่ทำงานบนคลาวด์และคอนเทนเนอร์

 

ผลการศึกษาของ IDC ในปี 2559 เรื่อง The Business Value of Red Hat OpenShift[1] ที่ได้รับการสนับสนุนจากเรดแฮท พบว่า OpenShift ช่วยให้ลูกค้าสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้รวดเร็วขึ้นด้วยการนำเสนอแอปพลิเคชั่นไมโครเซอร์วิสให้กับงานสำคัญทางธุรกิจด้วยกระบวนการ DevOps ผลที่ได้คือสามารถให้บริการแอปพลิเคชั่นได้เร็วขึ้นถึง 66% รายได้ต่อปีเฉลี่ย 1.29 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อการพัฒนาซอฟต์แวร์ 100 รายการ และผลตอบแทนจากการลงทุนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 531% ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา