Ninefar

Dyson เดินหน้าสู่เทคโนโลยีเครื่องเสียง ส่ง Dyson Zone หูฟังกรองอากาศพร้อมระบบตัดเสียงแบบ Active วางขายปีหน้า

 

กรุงเทพมหานคร, 8 ธันวาคม 2565 –Dyson เผยข้อมูลล่าสุดของ Dyson Zone™หูฟังกรองอากาศพร้อมระบบตัดเสียงแบบ Active โดยจะวางขายในประเทศจีน เดือนมกราคมปีหน้า และวางขายในประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และสิงคโปร์หลังจากประกาศอย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา Dyson Zone™กลับมาพร้อมข้อมูลรายละเอียดในการเป็นหูฟังที่มอบประสบการณ์การฟังเพลงแบบอิมเมอร์ซีฟที่มาพร้อมความสามารถในการกรองอากาศ

 

ด้วยการวิจัยและพัฒนากว่า 6 ปี Dyson Zone™ สามารถให้เสียงเต็มคุณภาพ คมชัด สมจริง ได้นานสูงสุดถึง 50 ชั่วโมง พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนอันทรงพลัง และการทำสำเนาเสียงที่แม่นยำ เต็มสเป็กตรัม มาพร้อมกับความสามารถในการกรองอากาศ สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กสุดที่ 0.1 ไมครอน และตัวกรอง K-Carbon เคลือบโพแทสเซียมที่ทำหน้าที่ดักจับก๊าซมลพิษที่เกิดจากกิจกรรมในเมือง เช่นไนโตรเจนไดออกไซด์ และซัลเฟอร์ไดออกไซด์

ออกแบบมาเพื่อปกป้องคุณจากมลพิษในตัวเมืองทุกรูปแบบ

ประชากรของโลกจำนวนมากกว่าครึ่งอาศัยอยู่ในตัวเมือง โดยคาดว่าสัดส่วนของคนที่อาศัยในตัวเมืองจะอยู่ที่ 7 ใน 10 ภายในปี 2050[1]แน่นอนว่าเมื่อประชากรในเมืองขยายตัว โครงข่ายสาธารณูปโภคต่างๆ ก็เติบตัวควบคู่ไปด้วย ทำให้เกิดการเพิ่มจำนวนของการขนส่ง การก่อสร้าง การเดินทาง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสภาพแวดล้อมภายในเมืองทั้งมลภาวะทางอากาศและมลภาวะทางเสียง ตัวอย่างเช่น

 

 

Dyson Zone™จะมาแก้ไขปัญหาได้อย่างไร?

Dyson Zone™หูฟังกรองอากาศถูกออกแบบมาเพื่อต่อสู้กับปัญหามลภาวะในตัวเมืองทั้งเสียงรบกวนและมลพิษในอากาศด้วยขุมพลังจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและระบบชาร์จ USB-C Dyson Zone สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 50 ชั่วโมงเมื่อใช้เฉพาะตัวหูฟัง หรือใช้ได้สูงสุดถึง 4 ชั่วโมงเมื่อใช้ทั้งหูฟังและเครื่องกรองอากาศพร้อมกัน โดยสามารถชาร์จเต็มได้ภายใน 3 ชั่วโมง

Dyson Zone™หูฟังกรองอากาศชิ้นนี้เกิดจากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์กว่า 30 ปีด้านการไหลของอากาศ การกรอง และมอเตอร์ ของ Dysonและความเข้าใจเชิงลึกเรื่องคุณภาพอากาศทั้งภายในและภายนอกอาคาร การทำงานของเครื่องกรองอากาศจะอาศัยคอมเพรสเซอร์บริเวณฝาครอบหูทั้งสองข้างในการนำอากาศเข้ามาสู่เครื่องผ่านตัวกรองสองชั้นและปล่อยกระแสอากาศบริสุทธิ์ไปยังจมูกและปากของผู้สวมใส่ผ่านกะบังหน้าแบบไร้สัมผัสในส่วนของตัวกรองจะประกอบด้วยตัวกรองประจุไฟฟ้าที่สามารถดักจับอนุภาคได้ขนาดเล็กสุดที่ 0.1 ไมครอน ในขณะที่ตัวกรอง K-Carbon ที่เคลือบโพแทสเซียมทำให้สามารถดักจับก๊าซมลพิษที่เกิดจากกิจกรรมในเมือง เช่นไนโตรเจนไดออกไซด์ และซัลเฟอร์ไดออกไซด์

 

Dyson Zone™ ออกแบบมาเพื่อมอบเสียงที่คมชัด สมจริง โดยสูญเสียคุณภาพเสียงน้อยที่สุดครอบคลุมทุกย่านเสียงทั้งต่ำ กลาง สูง นอกจากนั้นยังสามารถใช้คุยโทรศัพท์ อัดเสียง และรับคำสั่งเสียงได้ด้วย ไมโครโฟนสำหรับการสนทนาจะทำงานร่วมกับไมโครโฟนที่ใช้ในฟังก์ชัน ANC ในการบีมฟอร์มมิ่ง ซึ่งทำให้สามารถรับเสียงพูดจากผู้สวมใส่ได้โดยป้องกันเสียงรบกวนจากทั้งด้านข้างและด้านหลังของผู้สวมใส่ได้

 

 

Dyson บนเส้นทางของวิศวกรรมด้านเสียงที่แตกต่าง

Dyson Zone™มอบประสบการณ์การฟังเพลงแบบอิมเมอร์ซีฟโดยถึงแม้ผู้พัฒนาเครื่องเสียงส่วนมากในตลาดมักจะใช้Golden Listener ในการทดสอบเครื่องเสียง บุคคลที่ได้รับการฝึกให้ฟังและจำแนกเสียงเหล่านี้จะเป็นผู้กำหนดว่าเสียงแบบไหน เป็นเสียงที่ “ดี”แต่วิศวกรของ Dyson ต้องการที่จะใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ด้วยการวิจัยและยืนยันผลลัพธ์ด้วยการขยายกลุ่มคนในการทดสอบไปมากกว่าเหล่า Golden Listener

 

 

เสียงคมชัดในทุกสถานการณ์จริง

มีประชากรทั่วโลกจำนวนกว่า 190 ล้านคนที่เดินทางโดยรถไฟใต้ดินที่ทำให้ผู้เดินทางถูกสัมผัสโดยมลภาวะทางอากาศโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 และ PM10 ซึ่งในบางประเทศอากาศในรถไฟใต้ติดมีฝุ่นละอองมากกว่าบนถนน

 

 

ระบบเซนเซอร์ การเชื่อมต่อ และการพัฒนาแอปพลิเคชัน

ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) คือหนึ่งในก๊าซมลพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ที่เกิดจากทั้งรถยนต์และการก่อสร้าง และยังมีซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2)ที่พบได้บ่อยที่สุดในตัวเมือง โดยตัวกรองคาร์บอนเคลือบโพแทสเซียมถูกออกแบบมาเพื่อดักจับแก๊ซเหล่านี้ เพื่อต่อสู้กับปัญหามลภาวะทางอากาศในเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นใน Dyson Zone™ยังมีเซนเซอร์ที่คอยวัดระดับไนโตรเจนไดออกไซด์และระดับมลพิษทางเสียงแบบเรียลไทม์และแสดงผลผ่านแอปฯ MyDyson™นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์แบบเดียวกับที่เครื่องฟอกอากาศของ Dyson ทำได้ด้วยการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้สวมใส่และให้คำแนะนำด้านสุขภาพ หนึ่งในฟังก์ชันของ Dyson Zone™ คือการที่สามารถปรับระดับความแรงของอากาศได้อัตโนมัติเมื่อเปิดโหมด Auto และสวมกะบังหน้า ระบบตรวจจับศีรษะจะเปิดเครื่องในโหมด Standby เมื่อไม่ได้สวม และเมื่อถอดกะบังหน้าจะเข้าสูโหมดพูดคุยอัตโนมัติ ทำการปิดเครื่องกรองอากาศ และหยุดเพลง ทำให้สามารถยืดอายุแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

MyDyson™สามารถใช้เพื่อควบคุมDyson Zone™ปรับความเร็วของกระแสลม และเปิด-ปิดระบบตัดเสียงรบกวนรวมไปถึงปรับการตั้งค่า EQ ได้ตามความต้องการ โดยสามารถเลือกจาก 3 โหมด Dyson EQ (คุณภาพเสียงสูง)Bass Boost (เน้นเบส) และ Neutral (flatter response curve)นอกจากนั้นใน MyDyson™ ยังสามารถปรับเสียงรวมถึงรับคำแนะนำเรื่องสุขภาพของหูได้ด้วย

Dyson Zone™ หูฟังกรองอากาศถูกออกแบบโดยทีมวิศวกรจากทั้งสหราชอาณาจักร สิงคโปร์ มาเลเซีย และจีน โดยสำนักงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาซอฟต์แวร์การพัฒนาแอปฯและการบูรณาการถือเป็นโครงการที่สำคัญที่จะมีส่วนช่วยให้การเชื่อมต่อเป็นไปอย่างราบลื่น และมอบฟีเจอร์ในการติดตามมลภาวะทั้งทางเสียงและอากาศอย่างชาญฉลาด

เช่นเดียวกันกับเครื่องDysonทุกเครื่อง Dyson Zone™หูฟังกรองอากาศพร้อมระบบตัดเสียงแบบ Activeถูกทดสอบอย่างถึงที่สุด ทั้งในห้องควบคุมอุณหภูมิ ทดสอบการตกจากที่สูง ทดสอบการสึกหรอของวัสดุ ทดสอบความทนทานของปุ่ม และอีกมากมายโดยผู้ที่มีส่วนสำคัญอย่างมากคือเหล่าวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบที่Dyson Malaysia Development Centre ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งทำให้สามารถทดลองสวมใส่ได้ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนชื้นนอกเหนือจากห้องปฏิบัติการในสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังมีการทดสอบในผู้ใช้จริงในประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร จีน และสิงคโปร์

Dyson Zone™หูฟังกรองอากาศพร้อมระบบตัดเสียงแบบ Active จะเปิดตัวในปี 2023 ในบางภูมิภาคเท่านั้น โดยระยะเวลาการวางจำหน่ายจะแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ โดยทาง Dyson จะแจ้งให้ทราบเมื่อใกล้ถึงเวลาจัดวางขาย โดยสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม และลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ Dyson.co.th

###

[1]World Bank accessed Dec 2