Android

Vivo เปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธง Vivo X50 Pro 5G พร้อมเทคโนโลยี Gimbal ระบบกันสั่นสุดล้ำรุ่นแรกของโลก

X50-Series-KV-horizontal(5G function wording)RGB_TH_RE

กรุงเทพฯ, 9กันยายน 2563 – Vivo เปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นล่าสุด Vivo X50 Pro 5G อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้ความมุ่งมั่นในการดีไซน์และนวัตกรรมที่คำนึงถึงผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง โดยสมาร์ตโฟนรุ่น Vivo X50 Pro 5G มาพร้อมกับเทคโนโลยีกล้องระดับมืออาชีพเพื่อพร้อมปฏิวัติประสบการณ์ถ่ายภาพบนมือถือ

 

ด้วยเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหว (Gimbal) โหมดกลางคืนการซูมและถ่ายภาพบุคคลสุดล้ำสมัยผู้ใช้สมาร์ตโฟน
Vivo X50 Pro 5G สามารถบันทึกภาพและวิดีโอคุณภาพสูงได้อย่างเสถียรในหลากหลายสถานการณ์ เปลี่ยนทุกภาพถ่ายให้เป็นผลงานชิ้นเอกในด้านการดีไซน์ของ Vivo X50 Pro 5G นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากองค์ประกอบทางธรรมชาติและสุนทรียภาพแห่งอนาคตเพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์สุดแอคทีฟของผู้ใช้ด้วยความสามารถในการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ
การออกแบบดีไซน์ที่สวยงามและประสิทธิภาพการใช้งานอันราบรื่น Vivo X50 Pro 5G ได้ยกระดับของสมาร์ตโฟนไฮเอนด์รุ่นเรือธงขึ้นไปอีกขั้น

1

Vivo ได้รังสรรค์สมาร์ตโฟน X50 Pro 5G ขึ้นมาจากข้อมูลเชิงลึกด้านความต้องการของผู้บริโภคผนวกเข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อมอบประสบการณ์ถ่ายภาพบนมือถือระดับมืออาชีพแก่ผู้ใช้โดย Vivo เข้าใจผู้บริโภคในไทยเป็นอย่างดีว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้ใช้มือถือและโซเชียลมีเดียมากที่สุดในโลกการเปิดตัว Vivo X50 Pro 5G ในตลาดต่างประเทศเป็นครั้งแรกในครั้งนี้จึงตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคด้วยเสถียรภาพด้านการถ่ายรูปเลนส์กับเซ็นเซอร์ที่โดดเด่นและระบบกล้องเหนือชั้น ส่งต่อพลังสู่ผู้ใช้ให้บันทึกและแบ่งปันหลากหลายเรื่องราวในชีวิตได้อย่างมีสไตล์

 

ด้วยการพัฒนาเครือข่าย 5G อย่างรวดเร็วในประเทศไทยที่พร้อมใช้งานในอนาคตอันใกล้นี้ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จาก 5G มากขึ้นทั้งในแง่ของความเร็วที่เหนือกว่าความหน่วงในการส่งข้อมูลที่ต่ำและความสามารถเชื่อมต่อระหว่างกันที่สูงขึ้นด้วยสมาร์ตโฟน Vivo X50 Pro 5G ในมือคุณ Vivo หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะมอบประสบการณ์การใช้งานมือถือยุคใหม่ที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้มากขึ้น ช่วยให้ทุกคนเพลิดเพลินไปกับประโยชน์ของเทคโนโลยีล่าสุดปลดปล่อยพลังทางความคิดสร้างสรรค์และผลิตภาพได้มากกว่าที่เคย

 

นิยามใหม่แห่งการถ่ายภาพบนมือถือ

สมาร์ตโฟน Vivo X50 Pro 5G ผสานรวมเทคโนโลยีการถ่ายภาพระดับมืออาชีพกล้องหลักของ X50 Pro 5G มาพร้อมกับระบบกล้อง Gimbal ชั้นนำของอุตสาหกรรมเพื่อลดการสั่นไหว ช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพและวิดีโอที่ชัดขึ้นขณะกำลังเคลื่อนไหวหรือแม้ในเวลากลางคืน โมดูล Gimbal ขนาดเล็กในตัวของ X50 Pro 5G ถอดแบบมาจากเทคโนโลยี Gimbal ขนาดเต็มสำหรับมืออาชีพ โดยจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับการสั่นไหวเพื่อทำให้กล้องหลักเสถียรยิ่งขึ้น ระบบนี้ยังขยายองศาของการหมุนและพื้นที่ป้องกันการสั่นให้กว้างขึ้นเมื่อเทียบกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบอื่นที่เป็นที่นิยม ทำให้ได้ภาพที่คมชัดเป็นพิเศษฟีเจอร์ Gimbal Radar จะแสดงลูกบอลเคลื่อนไหวบนหน้าจอเพื่อบ่งบอกการเคลื่อนไหวของ Gimbal ช่วยให้ผู้ใช้ดูได้ว่าเฟรมภาพเสถียรแล้วหรือไม่อัลกอริทึมของ Vivo จะช่วยลดภาพเบลอที่เกิดจากการเคลื่อนไหวพร้อมด้วยเซ็นเซอร์เฉพาะตัวและการโฟกัสติดตามแบบต่อเนื่องที่จะเพิ่มความคมชัดของภาพและวิดีโอขึ้นอีก

 

มือถือ Vivo X50 Pro 5G นับเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงด้านการถ่ายภาพที่แท้จริงโดย X50 Pro 5G มาพร้อมระบบกล้องที่พร้อมในทุกการใช้งานด้วยกล้องหน้า 32MP หนึ่งตัวและกล้องหลังสี่ตัว (กล้องหลัก 48MP, กล้องซูเปอร์ไวด์ 8MP, กล้องถ่ายภาพบุคคลระดับมืออาชีพ 13MP, และกล้องเทเลสโคปิค 5 เท่า 8MP) เลนส์เทเลสโคปิค 5 เท่าใน X50 Pro 5G ยังรองรับไฮเปอร์ซูม 60 เท่าเผยให้เห็นรายละเอียดของภาพถ่ายอันน่าทึ่ง

6

Vivo X50 Pro 5G ยังมาพร้อมซูเปอร์ไนท์โหมดและโหมดถ่ายภาพดวงดาว ทั้งสองโหมดนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพยามค่ำคืนได้อย่างสวยงามไม่ว่าจะในเมืองหรือนอกเมือง ส่วนมุมภาพซูเปอร์ไวด์ 120 องศา (108 องศาหลังจากปรับแก้ป้องกันภาพผิดเพี้ยน) และฟังก์ชันซูเปอร์มาโครจะช่วยเสริมการถ่ายภาพระดับมืออาชีพได้ในหลากหลายสถานการณ์ และโหมดถ่ายภาพบุคคลของ Vivo ซึ่งขับเคลื่อนด้วยอัลกอริทึมการมาสก์ 4 ชั้น จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถแยกวัตถุออกจากพื้นหลังและใช้เอฟเฟกต์แยกกันเพื่อผลลัพธ์ที่ละเอียดยิ่งขึ้น

 

ประสิทธิภาพลื่นไหลในดีไซน์สุดล้ำ

นอกเหนือจากความสามารถในการถ่ายภาพระดับมืออาชีพแล้ว Vivo X50 Pro 5G ยังมอบประสิทธิภาพระดับเรือธง
รองรับ 5G ให้ผู้ใช้เชื่อมต่อออนไลน์ได้เร็วเป็นพิเศษด้วยความหน่วงต่ำ X50 Pro 5G ขับเคลื่อนโดยโปรเซสเซอร์ Qualcomm Snapdragon 765G เพื่อการประมวลผลที่รวดเร็วและทำงานหลากหลายพร้อมกันได้อย่างราบรื่นสมาร์ตโฟน Vivo X50 Pro 5G นี้มอบอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงถึง 90Hz เพื่อภาพที่คมชัดไม่ว่าจะชมภาพยนตร์หรือเล่นเกมก็ลื่นไหลไม่มีสะดุด

 

ด้วยนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยการออกแบบของ Vivo สมาร์ตโฟน Vivo X50 Pro 5G สร้างขึ้นพร้อมหน้าจอยืดหยุ่นที่บางเบาและทนทานกว่าหน้าจอแบบเดิมโดย X50 Pro 5G ถือเป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟน 5G ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมาเทคโนโลยี HDR 10+ จะแสดงผลที่สว่างสดใสกระจกแบบด้าน AG จะมอบสัมผัสนุ่มนวลละเอียดอ่อนในการใช้งานและระบบกล้อง Gimbal ยังได้ออกแบบให้เป็นรูปดวงตาเพื่อเป็นองค์ประกอบของดีไซน์ด้านหลังอันเป็นเอกลักษณ์ของ Vivo X50 Pro 5G

 

สมาร์ตโฟน Vivo X50 Pro 5G วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในสีอัลฟาเกรย์ (Alpha Gray) ในราคา 24,999 บาทเท่านั้น

 

หูฟัง TWS Neo ของ Vivo เติมเต็ม X50 Pro 5G ด้วยประสบการณ์เสียงขั้นสุด

Vivo ยังได้เปิดตัวหูฟัง TWS Neo เพื่อมอบประสบการณ์เสียงคุณภาพสูงและตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงในทุกๆวัน หูฟังไร้สาย TWS Neo มีคอยล์เคลื่อนไหว 14.2 มม. ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะให้เสียงที่ทรงพลังและสมจริง และมีไดอะแฟรมคอมโพสิตที่ผลิตจากไบโอไฟเบอร์เพื่อเพิ่มรายละเอียดของเสียง

 

หูฟัง TWS Neo ออกแบบโดยคำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้และมีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนด้วย AI เพื่อการสนทนาทางโทรศัพท์ที่ชัดเจนขึ้นพร้อมด้วยการควบคุมอัจฉริยะที่สั่งงานผ่านเสียงได้หลายรูปแบบหูฟังขับเคลื่อนด้วย QCC3046 แพลตฟอร์ม TWS รุ่นที่ 4 จาก Qualcomm ซึ่งให้ความหน่วงต่ำความแม่นยำสูงและประสบการณ์การฟังที่เสถียรตลอดจนเทคโนโลยี Bluetooth 5.2 ล่าสุดที่รับส่งได้ไกลสูงสุดถึง 10 เมตรคุณสมบัติขั้นสูงของหูฟัง TWS Neo พร้อมด้วยดีไซน์คลาสสิกและขนาดที่กะทัดรัดถือเป็นผลลัพธ์ของความทุ่มเทลงทุนด้านอุปกรณ์ไอโอทีของ Vivo ทั้งสมาร์ตโฟน X50 Pro 5G และหูฟัง TWS Neo แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Vivo ในการสร้างสรรค์อุปกรณ์ที่เน้นการออกแบบเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้

 

หูฟัง TWS Neo วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมาโดยมีทั้งหมด 2 สีคือสีขาว Moonlight White และสีดำน้ำเงิน Starry Blue ให้ผู้ใช้งานได้เลือกตามสไตล์ของตนในราคาเพียง 2,999 บาท

 

####

 

เกี่ยวกับ Vivo

Vivo เป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกที่ขับเคลื่อนผ่านผลิตภัณฑ์มีธุรกิจหลักที่มุ่งเน้นอุปกรณ์และบริการอัจฉริยะ
โดย Vivo มุ่งมั่นที่จะเชื่อมต่อผู้ใช้ทั่วโลกผ่านการออกแบบสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์เสริมที่น่าตื่นเต้นและล้ำสมัย ตลอดจนบริการที่ผสานรวมเทคโนโลยีและแนวคิดการออกแบบที่สร้างสรรค์และไม่เหมือนใครตามนโยบายของบริษัท

 

ด้วยสำนักงานใหญ่ในประเทศจีนและเครือข่ายศูนย์วิจัยและพัฒนา 9 แห่งในเซินเจิ้นตงกวนหนานจิงปักกิ่งหางโจวเซี่ยงไฮ้ไทเปโตเกียวและซานดิเอโก Vivo ได้มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคที่ล้ำสมัยทั้งในด้าน 5G ปัญญาประดิษฐ์การออกแบบอุตสาหกรรมการถ่ายภาพและเทคโนโลยีที่กำลังมาแรงอื่นๆนอกจากนี้Vivoยังได้จัดตั้งศูนย์การผลิต 5 แห่ง (รวมศูนย์การผลิตที่ได้รับอนุญาตจากแบรนด์) ในประเทศจีนเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยผลิตสมาร์ตโฟนมากกว่า 200 ล้านเครื่องในแต่ละปีในปี 2562 Vivoได้ขยายเครือข่ายด้านการขายออกไปในกว่า 30 ประเทศและภูมิภาคและเป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้ใช้มากกว่า 350 ล้านคนทั่วโลก





Click to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

To Top