PR

อีริคสันมุ่งมั่นพัฒนาแพลตฟอร์ม 5Gเพื่อวิวัฒนาการบนเครือข่ายที่ราบรื่น

Ericsson 5G_01
  • การพัฒนาที่ครบวงจรทุกผลิตภัณฑ์Core, Radio, Transportรวมไปถึงการบริการบริหารจัดการข้อมูล
  • การพัฒนาแพลตฟอร์มนี้ ทำให้วิวัฒนาการบนเครือข่ายสู่5G เป็นไปได้อย่างราบรื่น
  • เตรียมความพร้อมรับมือกับปริมาณข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้นบนระบบปฎิบัติการที่เรียบง่าย และสร้างรายได้จาก 5G

 

อีริคสัน (NASDAQ:ERIC) มุ่งมั่นพัฒนาแพลตฟอร์ม5G อย่างครบวงจร ด้วยการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งCore, Radio, Transport และการบริการบริหารจัดการข้อมูลจึงทำให้แพลตฟอร์ม5G ของอีริคสันพร้อมรับมือกับปริมาณข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้นได้อย่างยืดหยุ่น และเอื้อต่อการพัฒนาเครือข่ายและบริการสู่ยุค 5G ได้อย่างราบรื่นในวงกว้าง

แพลตฟอร์ม5Gของอีริคสันในวันนี้ ได้รับการพัฒนาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่หลากหลาย ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อยอดจากผลิตภัณฑ์เดิม เช่น Ericsson Spectrum Sharingอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อให้วิวัฒนาการบนเครือข่ายสู่5G เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยืดหยุ่น และราบรื่น บนรากฐานของแพลตฟอร์มเดิมที่มุ่งเน้นการให้บริการด้าน IoT สู่แพลตฟอร์มที่พร้อมให้บริการได้อย่างครบวงจร ทั้งบริการโมบายล์บรอดแบนด์ (enhanced mobile broadband)และบริการอินเทอร์เน็ตประจำที่บนเครือข่ายไร้สาย (fixed wireless access)

เฟรดดริกเจดดริงค์รองประธานบริหารและหัวหน้างานฝ่ายธุรกิจเครือข่ายของอีริคสันกล่าวว่า “กลุ่มผลิตภัณฑ์ของอีริคสันวันนี้ พร้อมแล้วในการเปิดให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์ ดังที่เราได้ร่วมกับผู้ให้บริการหลายรายในสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชีย และออสเตรเลีย เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราต่อไป เพื่อให้การก้าวเข้าสู่ยุค 5G เป็นเรื่องง่าย บนเครือข่ายที่พร้อมรองรับปริมาณข้อมูลมหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ บนระบบปฎิบัติการที่เรียบง่ายและก่อให้เกิดรายได้สำหรับผู้ให้บริการ 5G”

Core network ที่พร้อมรองรับ 4G และ 5G

เพื่อให้วิวัฒนาการจาก 4G ไปสู่ 5G เป็นไปได้อย่างเรียบง่ายและราบรื่น อีริคสันได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่7 ผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อกลุ่มผลิตภัณฑ์Cloud Coreสำหรับเครือข่าย 5G ทั้งแบบ Standalone และ Non-Standaloneซึ่งสามารถรองรับบริการที่มีอยู่แต่เดิมและบริการใหม่ ๆ บน 5G ได้อย่างต่อเนื่องโซลูชั่นส์Dual-mode 5G Cloud Core ถูกพัฒนาขึ้นบนรากฐานของเทคโนโลยีคลาวด์ เพื่อให้การบริหารจัดการความสามารถและระบบปฎิบัติการที่เกี่ยวข้องโดยรวมมีประสิทธิภาพและพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ โซลูชั่นส์Cloud Core ยังได้รับการออกแบบให้สามารถบริหารจัดการผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อพร้อมรองรับการใช้งานบน 5G ในรูปแบบใหม่ ๆ รวมถึง APIs ที่เปิดกว้างสำหรับนวัตกรรมบนความสามารถใหม่ของ 5G เช่น เทคโนโลยี network slicing และ edge computing

โซลูชั่นส์ทรานสปอร์ตที่พร้อมรองรับ 5Gและเทคโนโลยีอื่นได้อย่างหลากหลาย

การสร้างเครือข่าย 5G ในช่วงแรกมักเริ่มต้นด้วยการเปิดให้บริการในพื้นที่เขตเมืองใหญ่ก่อน แล้วจึงตามด้วยการพัฒนาประสิทธิภาพของเครือข่าย 4G ไปพร้อมกับการขยายพื้นที่ให้บริการ 5G สู่พื้นที่นอกเมืองออกไป การขยายพื้นที่ให้บริการอย่างต่อเนื่องในลักษณะนี้ จำเป็นต้องอาศัยโซลูชั่นส์ทรานสปอร์ตที่รองรับได้ทั้งเทคโนโลยีไฟเบอร์และไมโครเวฟ

ด้วยเหตุนี้ อีริคสันจึงพัฒนาต่อยอดสายผลิตภัณฑ์ไมโครเวฟ ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง MINI-LINK 6200ที่พร้อมรองรับเทคโนโลยี 5G แบบ Long Haul ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 10Gbps นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งRouter และ Front haul เพื่อโซลูชั่นส์ที่ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ง่ายด้วยระบบโมดูลาร์ ซึ่งเหมาะสำหรับการขยายเครือข่ายที่เป็นไปอย่างต่อเนื่องและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ผลิตภัณฑ์New Radioและ virtualized Radio Access Network (vRAN)

ไฮไลท์สำคัญของ 5G มิได้มีเพียงคลื่นความถี่ในช่วงใหม่เท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพในการสร้างสถานีฐาน และการเพิ่มความสามารถของRadio ได้อย่างแม่นยำตามความต้องการของผู้ให้บริการ อีริคสันจึงตอบสนองความต้องการนี้ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Radio ในคลื่นความถี่ใหม่9 ช่วง ทั้งในdual band, triple band และ high-performance Massive MIMO radios

นอกจากนี้ อีริคสันยังประสบความสำเร็จในการผลิตซอฟต์แวร์เพื่อสร้างเครือข่าย Radio แบบเสมือน(virtualized 5G NR software)ซึ่งสามารถรองรับและบริหารจัดการข้อมูลที่เกิดจากผู้ใช้จำนวนมากได้โดยง่ายและมีประสิทธิภาพ ผ่านโครงสร้างเครือข่ายที่มีระบบบริหารจัดการข้อมูล (data traffic processing intelligence) อยู่เหนือฟังก์ชันอื่นจึงเอื้อต่อการใช้งานในรูปแบบหรือโครงสร้างใหม่ ๆ ได้อย่างหลากหลาย

การบริหารจัดการข้อมูลแบบครบวงจรโดยอัตโนมัติเพื่อระบบปฎิบัติการที่เรียบง่าย

เมื่อเครือข่ายมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น การยกระดับระบบปฎิบัติการให้เรียบง่ายจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ให้บริการ ดังนั้นอีริคสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาโซลูชั่นส์Ericsson Dynamic Orchestrationให้สามารถรองรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี network slicing อย่างครบวงจรและโดยอัตโนมัติ ตั้งแต่การสร้าง การทดสอบ และการนำไปใช้งานจริง เพื่อให้การเปิดให้บริการ 5G เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ โซลูชั่นส์ดังกล่าวยังได้นำเทคโนโลยี AI มาใช้ทำระบบอัตโนมัติบนเครือข่ายไฮบริด ทั้งสำหรับฟังก์ชันของเครือข่ายจริง (physical) ฟังก์ชันเสมือน (virtual) และฟังก์ชันแบบ container-based ในสภาพแวดล้อมที่มีอุปกรณ์จากผู้ผลิตหลายราย เพื่อให้ระบบสามารถประเมินผลกระทบและปรับเครือข่ายได้อย่างเหมาะสมแบบ real-time และเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดอยู่เสมอ

รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุดคาดการณ์ว่า ปริมาณการส่งผ่านข้อมูลบนเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่จะเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าตัว ภายในปี 2024 โดยร้อยละ 25 ของการใช้งานเหล่านี้จะอยู่บนเครือข่าย 5G ทั้งนี้เพื่อรองรับปริมาณข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้นและบริการรูปแบบใหม่บนเทคโนโลยี5G อีริคสันจึงได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม5G ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2017 และได้พัฒนาต่อยอดโซลูชั่นส์ใหม่ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง

 

Erasmusbrcke in Rotterdam, Holland

แพททริค วีเบล หัวหน้าฝ่ายโปรแกรม 5G บริษัทสวีสคอม กล่าวว่า “เนื่องจากเราได้ทำการพัฒนาเครือข่ายของเราสู่ 5G ดังนั้นเราจึงต้องการระบบปฎิบัติการที่เรียบง่าย ลดระยะเวลาในการเข้าสู่ตลาด และเปิดรับเครือข่ายสำหรับนวตกรรมใหม่ ๆ อีริคสัน dual-mode 5G Cloud Core ทำให้เราย้ายจากเครือข่าย 4G Core ไปสู่ 4G รวมกับ5G ได้อย่างยืดหยุ่น ในขณะที่ยังคงบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้โซลูชั่นส์ Ericsson Dynamic Orchestration ยังสามารถลดเวลาในการทำ Network Slices จากปกติจะใช้เวลาเป็นอาทิตย์ให้เสร็จภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงอีกด้วย”

อัลเบิร์ท มาคิวร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายเครือข่าย บริษัทเอ็มทีเอ็น ไนจีเรีย กล่าวว่า เครือข่าย transport ของเราใช้ไมโครเวฟเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมันมีความง่ายและเร็วรวดในการนำมาใช้ เราใช้ทั้งในส่วนของ backhaulของ radio accessและในส่วนของการเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ห่างไกลกับระบบ long haul ความสามารถของผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่อย่าง MINI-LINK6200 สามารถช่วยให้เราจัดการค่าใช้จ่ายต่อปริมาณข้อมูลที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

แดริล ชูลาร์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการสาขาเทคโนโลยีเพื่อผู้ให้บริการบริษัทโอวุม กล่าวว่า “การพัฒนาผลิตภัณฑ์ล่าสุดของอีริคสันยังคงเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อเป้าหมายในการทำให้ลูกค้าของพวกเขาสามารถเปลี่ยนผ่านจาก 4G ไปสู่ 5G ได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม 5G ของอีริคสัน ยังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยเครื่องมือที่หลากหลาย เพื่อสร้างรายได้ให้กับผู้ให้บริการจากบริการใหม่ที่เป็นไปได้บนเครือข่าย 5G โดยในระยะแรกเน้นการให้บริการโมบายล์บรอดแบนด์ที่มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ร่วมกับบริการอินเทอร์เน็ตประจำที่ผ่านเครือข่ายไร้สาย โดยแพลตฟอร์ม5G ดังกล่าว ถูกออกแบบให้สามารถปรับขยายได้ เพื่อรองรับบริการใหม่ในอนาคตเมื่อมีความพร้อมในการออกสู่ตลาด”

อีริคสันที่งาน Mobile World Congress 2019

ติดตามอีริคสันในงาน Mobile World Congress 2019 ที่เมืองบาร์เซโลน่า ตั้งแต่วันที่ 25-28 กุมภาพันธ์ ร่วมสัมผัสประสบการณ์แห่งอนาคตของนวตกรรม 5G และ IoT ซึ่งจะมีการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจจาก 5G และโชว์เคสใหม่ ๆ ที่จะยกระดับธุรกิจของผู้ให้บริการและประสบการณ์ลูกค้า รวมถึงอัพเดทข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับแนวโน้มและคาดการณ์เทคโนโลยีในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในปัจจุบันและในอนาคต ติดตามไลฟ์สดได้ที่ www.ericsson.com/mwc





Click to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

To Top