Android

“ซัมซุง”ยกระดับธุรกิจไทยสู่Next Mobile Economy ชูความปลอดภัยสูงสุดด้วยSamsung Knoxบนอุปกรณ์ที่หลากหลาย

Samsung 1
  • ซัมซุงจัดงาน Samsung Business Forum 2018ภายใต้ธีม Next Mobile Economyแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับองค์กรโดดเด่นด้วยโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์เพื่อธุรกิจที่ครบครันส่งเสริมศักยภาพให้กับภาคธุรกิจไทยทุกขนาดและทุกอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยโมบายเทคโนโลยี
  • ตอกย้ำความมั่นใจของธุรกิจด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดบนแพลตฟอร์มSamsung Knox พร้อมความสามารถในการควบคุมการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจรวมไปถึงการใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์มอื่น
  • อุตสาหกรรมที่มีความพร้อมเข้าสู่ Next Mobile Economy มากที่สุดได้แก่การเงินการธนาคาร ธุรกิจค้าปลีกหน่วยงานภาครัฐและโลจิสติกส์

กรุงเทพฯ,5กันยายน2561 – เมื่อเร็วๆ นี้ ซัมซุง ผู้นำด้านนวัตกรรมคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์และสมาร์ทโฟนระดับโลกประกาศกลยุทธ์ผลักดันภาคธุรกิจไทยสู่ Next Mobile Economyภายในงาน Samsung Business Forum 2018ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลกรุงเทพฯ โดยนำเสนอโมบายโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายสำหรับองค์กร เติมเต็มความมั่นใจด้วยระบบมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลขั้นสูงสุดไปจนถึงระดับฮาร์ดแวร์ บนแพลตฟอร์ม “ซัมซุง น็อกซ์”(Samsung Knox)ที่ยังสนับสนุนความสามารถในการควบคุมการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจรวมไปถึงการใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์มอื่นตอบโจทย์ความท้าทายที่องค์กรสมัยใหม่ต้องเผชิญในยุคสมาร์ทโฟนเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจและชีวิตส่วนตัว

SAMSUNG Business Forum_05_

นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัดกล่าวว่า “ในปัจจุบันเราไม่ได้เดินตามเทคโนโลยีของสมาร์ทโฟนด้วยการเป็นผู้ใช้งานเพียงเท่านั้น แต่ความคิดและไอเดียสร้างสรรค์ต่างๆทั้งเพื่อความบันเทิงและธุรกิจ ล้วนเกิดขึ้นบนโทรศัพท์มือถือ ซัมซุงเรียกปรากฎการณ์นี้ว่า Next Mobile Economy คือการที่โมบายเทคโนโลยีถูกผนึกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจซึ่งเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่องค์กรต้องคำนึงถึงเพื่อเตรียมรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ที่กำลังมาถึง ไม่ว่าจะเป็น การปฎิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4(4thIndustrial Revolution)รวมถึงเทคโนโลยี 5G”

 

นายวิชัย กล่าวเสริมว่า “แม้Next Mobile Economy จะเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับภาคธุรกิจ แต่ในขณะเดียวกันการปรับเปลี่ยนองค์กรไปสู่การทำงานบนระบบโมบายนั้นก็มาพร้อมกับความเสี่ยงในหลายด้าน หนึ่งในนั้นคือการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ซัมซุงจึงได้พัฒนาแพลตฟอร์ม‘ซัมซุง น็อกซ์’ ซึ่งมีมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีเทียบเท่ากับที่ใช้ในทางการทหาร (Defense-grade security)ประกอบด้วยระบบรักษาความปลอดภัยหลายระดับตั้งแต่ซอฟท์แวร์ไปจนถึงฮาร์ดแวร์ เพื่อให้กลุ่มลูกค้าองค์กรธุรกิจของเรามั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญทางธุรกิจจะได้รับการปกป้องดูแลและไม่รั่วไหลจากการใช้งานบนสมาร์ทโฟนรวมถึงแท็บเล็ต ยิ่งไปกว่านั้น ซัมซุงยังมีโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ที่ครบครัน เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย ตอบรับความต้องการของธุรกิจทุกขนาดและทุกอุตสาหกรรม”

 Samsung 2

ดร.มารุตมณีสถิตย์ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กรธุรกิจโทรคมนาคมและไอทีบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัดกล่าวว่า“กลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กรเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ซัมซุงให้ความสำคัญโดยเราได้ออกแบบโซลูชั่นเพื่อตอบสนองความต้องการและสนับสนุนการทำงานขององค์กรในยุค Next Mobile Economy ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและสร้างประสบการณ์การทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในภาคอุตสาหกรรม นอกจากความโดดเด่นในด้านผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนที่เราเป็นผู้นำในตลาดโลก ‘ซัมซุง น็อกซ์’ ยังเป็นแพลตฟอร์มด้านความปลอดภัยบนอุปกรณ์พกพาเพียงหนึ่งเดียวที่มีความปลอดภัยระดับสูงสุด อีกทั้งยังเอื้อต่อผู้ดูแลระบบในการดูแลควบคุมโดยไม่กระทบกับการใช้งานและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังง่ายต่อการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจรวมไปถึงการใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ในอีโคซิสเต็มเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดกับธุรกิจของคุณ”

 

ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในประเทศไทยมีการปรับตัวเข้าสู่ Next Mobile Economy มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งกลุ่มลูกค้าองค์กรธุรกิจของซัมซุงที่มีการนำโมบายเทคโนโลยีไปใช้งานสูงสุด ได้แก่ การเงินการธนาคารธุรกิจค้าปลีกหน่วยงานภาครัฐและโลจิสติกส์ ตามมาด้วย อุตสาหกรรมการผลิต โรงพยาบาล สถาบันการศึกษา และประกันภัย

 

ดร. มารุต กล่าวทิ้งท้ายว่า “ในปีนี้ ซัมซุงและพันธมิตรจะร่วมกันผลักดันภาคธุรกิจเพื่อปรับตัวเข้าสู่ Next Mobile Economy อย่างต่อเนื่อง โดยต่อยอดความสำเร็จจากตลาดสมาร์ทโฟน รวมไปถึงการนำนวัตกรรมแห่งอนาคตผสานโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ของซัมซุงไม่ว่าจะเป็น อินเตอร์เน็ตออฟธิงส์ (IoT) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน (VR)ความเป็นจริงแต่งเติม (AR) ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับการทำ Business Intelligence ทั้งหมดนี้จะเป็นกลไกขับเคลื่อนภาคธุรกิจไทยก้าวไปสู่ความสำเร็จบนเวทีโลกในอนาคต”

 

ภายในงานSamsung Business Forum 2018 ยังได้รับเกียรติจากผู้บริหารและที่ปรึกษาทางด้านไอทีขององค์กรชั้นนำ อาทิ ธนาคารออมสิน ไอบีเอ็ม ไมโครซอฟท์ กสท. WHA และ ACISมาร่วมบรรยายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในมุมมองต่างๆ เกี่ยวกับ Mobile Economy ในประเทศไทยนอกจากนี้ยังมีบูธจัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นสำหรับองค์กร รวมถึงบริการให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทพันธมิตรชั้นนำมากมาย โดยมีผู้บริหารด้านไอทีให้ความสนใจเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง





Click to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

To Top