PR

ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดตัว The FIRST Lounge& SCB Investment Center

Samitivej Plus & Samitivej FastPay (1)

ธนาคารไทยพาณิชย์”ผนึกกำลัง “โรงพยาบาลสมิติเวช”เปลี่ยนประสบการณ์ดิจิทัลเฮลธ์รูปแบบใหม่

เปิดตัวThe FIRST Lounge& SCB Investment Center ”

และพัฒนาดิจิทัลโซลูชั่น เจาะกลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง

  • ชูแนวคิด The FIRST Prestige Health & Wealth Experience” มอบประสบการณ์สุขภาพเหนือระดับพร้อมเอกสิทธิ์ไลฟ์สไตล์ทางการเงินแบบครบวงจรด้วยบริการบริหารความมั่งคั่งจาก SCB Investment Center
  • แทคทีม “ดิจิทัล เวนเจอร์ส” ยกระดับบริการด้านสุขภาพร่วมพัฒนาดิจิทัลโซลูชั่นด้านการชำระเงิน“SamitivejFastPay”เสริมแกร่งให้พันธมิตรพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในยุค4.0

 

กรุงเทพฯ (26มิถุนายน พ.ศ. 2561) –“ธนาคารไทยพาณิชย์”เดินหน้าทำตลาดกลุ่มลูกค้าเวลธ์อย่างต่อเนื่องล่าสุดจับมือกับ“โรงพยาบาลสมิติเวช”สร้างมิติใหม่ให้ทั้ง 2 วงการ พัฒนาความร่วมมือ 3 ด้านในการยกระดับบริการด้านสุขภาพ ภายใต้แนวคิด “The FIRST Prestige Health & Wealth Experience” ได้แก่ “เดอะ เฟิร์ส เลานจ์ แอนด์ เอสซีบี อินเวสเม้นต์ เซ็นเตอร์” (THE FIRST LOUNGE& SCB INVESTMENT CENTER)พื้นที่รับรองรูปแบบใหม่ที่ถูกออกแบบและตกแต่งในสไตล์กลาสเฮ้าส์แห่งแรกในประเทศไทยชูจุดเด่น“เอสซีบีอินเวสต์เม้นต์ เซ็นเตอร์” (SCBInvestment Center)ศูนย์รวมความรู้และให้คำแนะนำด้านการบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคลรูปแบบใหม่ เพื่อเจาะลูกค้ากลุ่มFIRST class ของโรงพยาบาลสมิติเวชและกลุ่มลูกค้ามั่งคั่งหรือ SCB Wealth ที่เป็นสมาชิก “SCB PRIVATE BANKING” และ “SCB FIRST”พร้อมตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำด้านดิจิทัลแบงก์กิ้งเปิดตัวระบบ “สมิติเวช ฟาสต์เพย์” (SamitivejFastPay)ระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ที่สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องรอคิวเพื่อชำระเงินที่เคาน์เตอร์อีกต่อไป และแอปพลิเคชัน“สมิติเวช พลัส” (Samitivej Plus)” ดิจิทัลแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงข้อมูลการให้บริการสุขภาพออนไลน์ครบวงจรซึ่งดิจิทัล เวนเจอร์ส บริษัทพัฒนานวัตกรรมทางการเงินในเครือของธนาคารฯ ได้ร่วมพัฒนากับสมิติเวชในส่วนของการออกแบบการใช้งานแอปพลิเคชั่น (User Experience) และการชำระเงินออนไลน์มุ่งเปลี่ยนประสบการณ์ด้านสุขภาพแบบเดิมสู่ประสบการณ์สุขภาพดิจิทัลเฮลธ์(Digital Health) ที่ล้ำสมัยเชื่อมโยงการบริการทั้งภายในและภายนอกโรงพยาบาลแบบExclusive VIP Onestopserviceเพื่อตอบสนองทุกความต้องการด้านสุขภาพ ไลฟ์สไตล์และการเงินแก่ผู้ใช้บริการคาดว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยต่อยอดให้ธนาคารสามารถก้าวสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาด Wealth Banking

 นายอรพงศ์ เทียนเงิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด (1)

นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ธนาคารได้ประกาศแนวทางการดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์กลับหัวตีลังกา (Going Upside Down) เพื่อมุ่งสู่วิสัยทัศน์ของการเป็น “ธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด” (The Most Admired Bank) ธนาคารจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยี และบริการ เพื่อผลักดันให้ไทยพาณิชย์กลายเป็นดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Bank as a platform)ที่สามารถเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการเงินที่ดีขึ้น และตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมที่สุด

 

“แผนการดำเนินงานของธนาคารไทยพาณิชย์ต่อจากนี้จะมุ่งเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ๆให้ลูกค้าผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มหรือที่เรียกว่าDigitalExperience เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มโอกาสในการสร้างความผูกพันกับลูกค้า(Customer Engagement)ในอนาคต รวมถึงการรุกธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง(Wealth Management) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญขององค์กรล่าสุด ธนาคารได้ร่วมมือกับ “โรงพยาบาลสมิติเวช”พันธมิตรทางธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์ ความมุ่งมั่น และให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งด้านการแพทย์และบริการด้วยนวัตกรรมอันทันสมัยเพื่อให้คนไข้มีสุขภาพที่ดีขึ้น สอดคล้องกับแนวทางของไทยพาณิชย์ที่ต้องการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มร่วมกับพันธมิตร รวมถึงการสร้างระบบนิเวศ หรือ Ecosystem ในโรงพยาบาล ที่ครอบคลุมทุกแง่มุมและตอบโจทย์บริการทั้งด้านสุขภาพและการเงินร่วมกันอย่างแข็งแกร่ง โดยใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญนับเป็นการสร้างมิติใหม่ให้กับทั้งแวดวงสุขภาพและการเงินของประเทศ”

 

“เป้าหมายความร่วมมือในครั้งนี้ ธนาคารต้องการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ รวมถึงดูแลกลุ่มลูกค้าเวลธ์ปัจจุบันซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญของไทยพาณิชย์ผ่านการนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆที่สร้างสรรค์เพื่อเปลี่ยนประสบการณ์บริการด้านไลฟ์สไตล์การเงินให้แก่ลูกค้าอีกทั้งการร่วมมือกับสมิติเวชยังเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของธนาคารที่จะไม่เป็นเพียงแค่ธนาคารอีกต่อไปแต่เป็นองค์กรที่นำเทคโนโลยีใหม่ๆมาพัฒนาความแข็งแกร่งให้กับพันธมิตรทางธุรกิจเสริมขีดความสามารถและโอกาสใหม่ๆให้กับองค์กร ยกระดับมาตรฐานการให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสูงสุดในการเป็นดิจิทัลแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและข้อมูลเป็นหลักภายในปี 2563 อย่างแท้จริงและคาดว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้ธนาคารก้าวสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาด Wealth Banking”นายอาทิตย์กล่าว

นพ.ชัยรัตน์ปัณฑุรอัมพรประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชและโรงพยาบาลบีเอ็นเอชกล่าวว่า “โรงพยาบาลสมิติเวชดำเนินการให้บริการมานานกว่า39ปี ภายใต้ปรัชญา “ดูแลคนไข้ด้วยหัวใจ” โดยเราไม่เคยหยุดนิ่งในการมอบบริการและนำนวัตกรรมทั้งด้านการแพทย์และการบริการมาใช้ในสมิติเวช เพื่อดูแลรักษาคนไข้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและได้รับบริการด้านสุขภาพที่ได้มาตรฐานโดยปัจจุบันสมิติเวชได้นำเทคโนโลยีล้ำสมัยและเครื่องมือที่ทันสมัยมาใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วย ซึ่งเรามุ่งเน้นให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อก้าวไปสู่วิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำโรงพยาบาลระดับแนวหน้าของประเทศไทย ล่าสุดสมิติเวชได้วางแนวทางการดำเนินธุรกิจในการก้าวสู่ปีที่ 40ภายใต้แนวคิด“เราไม่อยากให้ใครป่วย”เน้นอยากให้ทุกคนมีสุขภาพดีจึงพัฒนานวัตกรรมที่สามารถค้นหาโรคในตัวคุณและเตรียมตัววางแผนก่อนเกิดโรคในอนาคตอาทิPrecision Medicine ที่เน้นการดูแลวินิจฉัยถึงระดับพันธุกรรม (ยีน) สามารถรู้เท่าทันโรคที่จะเกิดในอนาคตเฉพาะบุคคลการร่วมมือทางการแพทย์กับต่างประเทศอาทิโรงพยาบาลซาโนญี่ปุ่นใช้เทคโนโลยีค้นหาและล่วงรู้การเกิดโรคมะเร็งลำไส้และกระเพาะอาหารได้ล่วงหน้าและการร่วมมือกับOregon Health & Science University (OHSU) และDoernbecher Children’s Hospital ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในThe Best Children’s Hospitals ในสหรัฐอเมริกาเข้ามาแลกเปลี่ยนเทคนิคการดูแลผู้ป่วยเด็กทั้งด้านการรักษาและการป้องกันการเกิดโรคตั้งแต่ทารกแรกเกิดจนถึงเด็กโตเพื่อให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคตสมิติเวชยังมีโปรแกรมDivine คือนวัตกรรมในการยกระดับสุขภาพให้ถึงจุดที่ดีที่สุดในตัวคุณเป็นโปรแกรมเฉพาะบุคคลเพื่อการดูแลแบบรู้เท่าทันโรคด้วยการนำเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ล้ำหน้าPrecision Medicineตรวจลึกถึงระดับยีนและนำมาวิเคราะห์เป็นโปรแกรมการดูแลในแบบเฉพาะบุคคล (Personal Health MappingTM) โดยมีทีมแพทย์เป็นเทรนเนอร์ด้านสุขภาพอย่างใกล้ชิดในโปรแกรมนี้สามารถตรวจพันธุกรรมเพื่อหาความเสี่ยงต่อโรคร้ายต่างๆมากมายรวมถึงการตรวจเทโลเมียร์หาความยาวของปลายโครโมโซมที่จะรู้ถึงอายุเซลล์ภายในร่างกายอย่างแท้จริงและความสัมพันธ์กับการเกิดโรคร้ายต่างๆเพื่อการดูแลคุณก่อนเกิดโรคร้ายแรงนอกจากนี้เราได้พัฒนาซอฟต์แวร์Total Health Solution โดยจะมีโปรแกรมแนะนำการตรวจเชิงป้องกันที่เหมาะสมในแต่ละช่วงอายุเป็นการเตรียมวางแผนไม่ให้เกิดโรคได้รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จึงเกิดเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง ‘โรงพยาบาลสมิติเวช’ และ‘ธนาคารไทยพาณิชย์’ในการยกระดับการดูแลผู้ใช้บริการของโรงพยาบาล ด้วยการมอบประสบการณ์ใหม่เพื่อความพึงพอใจสูงสุด รวมถึงยังได้พัฒนาบริการในด้านต่างๆ เพื่อดูแลสุขภาพลูกค้าอย่างไร้ขีดจำกัดตลอด24ชั่วโมง”

 

“นอกจากนี้สมิติเวชยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการมอบประสบการณ์การบริการด้านสุขภาพในยุคดิจิทัล 4.0 จึงได้ร่วมมือกับ “ดิจิทัล เวนเจอร์ส” บริษัทในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ พัฒนาระบบการให้บริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ใช้บริการ ได้แก่ “สมิติเวช ฟาสต์เพย์”(SamitivejFastPay) ระบบการชำระเงินที่ให้ความสะดวกและรวดเร็วในการจ่ายเงิน และ แอปพลิเคชัน “สมิติเวช พลัส” (Samitivej Plus) โดยแอปฯ ดังกล่าวจะเป็นเสมือนผู้ช่วยด้านสุขภาพที่ให้ข้อมูลครอบคลุมตั้งแต่ก่อนเดินทางเข้าใช้บริการ (Pre Hospital) ระหว่างใช้บริการที่โรงพยาบาล(Hospital) จนถึงหลังจากกลับบ้านเพื่อพักฟื้นหรือดูแลตัวเอง (Post Hospital) เบื้องต้นได้นำร่องใช้ที่โรงพยาบาลสมิติเวชสุขุมวิทโรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์และโรงพยาบาลเด็กสมิติเวชก่อน และคาดว่าจะนำแอปพลิเคชัน ดังกล่าวไปใช้กับทุกโรงพยาบาลในเครือที่มีอยู่7แห่งทั่วประเทศภายในปีนี้ เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์พิเศษเฉพาะผู้รับบริการอย่างแท้จริง”นพ. ชัยรัตน์กล่าวเสริม

 

ด้าน นายอรพงศ์ เทียนเงิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัดกล่าวว่า“ความเปลี่ยนแปลงในโลกดิจิทัลทำให้เกิดโอกาสใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจ รวมไปถึงการยกระดับคุณภาพและบริการเพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น เราเล็งเห็นถึงความสำคัญในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้าไปมีส่วนช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจหลาหลายกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มสุขภาพ ดิจิทัล เวนเจอร์ส จึงได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลสมิติเวชในการพัฒนาดิจิทัลโซลูชั่นทางการเงินภายใต้ชื่อ SamitivejFastPay ช่องทางการชำระเงินรูปแบบใหม่ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกสบายและความรวดเร็วในการชำระเงินมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น1)การชำระเงินด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ดที่จุดFastPay Stationซึ่งระบบนี้ได้เชื่อมต่อกับระบบบิลของโรงพยาบาลทำให้ผู้ใช้บริการเห็นค่าใช้จ่ายและสแกนเพื่อชำระเงินได้ทันที และ2) การชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านแอปพลิเคชัน Samitivej Plus โดยเราได้เปิดให้ผู้ใช้ได้ทดลองการชำระเงินทั้งสองรูปแบบที่สมิติเวชสุขุมวิท และศรีนครินทร์ ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีจำนวนธุรกรรมผ่าน SamitivejFastPayกว่า1,157 ธุรกรรม หรือเฉลี่ย 50ธุรกรรมต่อวัน และลูกค้าให้คะแนนความพึงพอใจเฉลี่ยสูงถึง 4.75จากคะแนนรวม 5 นอกจากนี้ผู้ที่ชำระเงินผ่าน SamitivejFastPayจะได้รับส่วนลด 10% และได้รับส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมหากชำระเงินผ่านบัตรเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์”

 

ความร่วมมือระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์ และ กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช ในการเปลี่ยนประสบการณ์สุขภาพดิจิทัลรูปแบบใหม่ หรือ ดิจิทัลเฮลธ์ ครอบคลุม 3 เรื่องหลัก ดังนี้

 

Samitivej FastPay (2)

Samitivej FastPay (1)

 

 

  1. “เดอะ เฟิร์ส เลานจ์ แอนด์เอสซีบี อินเวสเม้นเซ็นเตอร์”(THE FIRST LOUNGE& SCB Investment Center)พื้นที่รับรองรูปแบบพิเศษแห่งแรกในประเทศไทยภายใต้แนวคิดThe FIRST Prestige Health & Wealth Experience”ที่ถูกออกแบบในสไตล์กลาสเฮ้าส์เพื่อมอบประสบการณ์บริการแบบ Exclusive VIP One-stop service ให้แก่ลูกค้าFIRST Class ของโรงพยาบาลสมิติเวช และลูกค้าเวลธ์ของธนาคารไทยพาณิชย์ที่เป็นสมาชิก“SCB PRIVATE BANKING” และ“SCB FIRST”ที่มาใช้บริการ ณ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท โดยภายในจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น3โซนหลัก ได้แก่ 1) โซนรับรองพิเศษด้านสุขภาพแบบครบวงจร พื้นที่หลักบริเวณด้านหน้าของเลานจ์ซึ่งจะบริการต้อนรับและดูแลแบบVIP ด้วยเจ้าหน้าที่ดูแลเฉพาะบุคคลเพื่ออำนวยความสะดวกรวดเร็วให้กับท่านอาทิการนัดหมายแพทย์การพบแพทย์การจ่ายเงิน และการรอรับยา พร้อมมีมุม Exclusive Healthy Snack Barไว้บริการลูกค้าให้ได้ใช้เป็นที่พักผ่อนระหว่างรอรับบริการด้านสุขภาพ พร้อมอาหารว่างและเครื่องดื่มสุขภาพจากร้านดังDivanaSignature Café 2) โซน SCB Investment Centerศูนย์บริหารความมั่งคั่งที่รวมความรู้และการให้คำแนะนำด้านการลงทุนและบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคลเพื่อมอบเอกสิทธิ์ไลฟ์สไตล์ทางการเงินแบบครบวงจรให้แก่ลูกค้าที่เป็นสมาชิก โดย “SCB Investment Center”แห่งนี้ ถือเป็นTouchpoint ล่าสุดที่ธนาคารเปิดให้บริการกับลูกค้าเวลธ์ และเป็นแห่งแรกที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของโรงพยาบาล ปัจจุบันธนาคารเปิดให้บริการ “SCB Investment Center”รวมทั้งหมด 7 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนที่จะเปิดให้บริการรวม 60แห่งในโลเคชั่นสำคัญๆ 3) โซนเอาท์ดอร์ พื้นที่เปิดโล่งสำหรับรองรับการจัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ ที่จะจัดให้กับสมาชิกคนสำคัญ อาทิ กิจกรรมดนตรีในสวน(Music in the garden) เพื่อสร้างความผ่อนคลายเวลามาใช้บริการด้านสุขภาพที่สมิติเวชกิจกรรมสนทนาพูดคุย หรือเวิร์คช้อปต่างๆ อาทิ เรื่องสุขภาพและการลงทุน เป็นต้น โดยพื้นที่รับรองแห่งนี้จะเป็นช่องทางการให้บริการครบวงจรตอบโจทย์สุขภาพและการเงิน ตั้งแต่ก้าวแรกที่ลูกค้าเดินเข้ามาใช้บริการจนกระทั่งออกจากเลานจ์นี้ไป

 

  1. Samitivej Plusแอปพลิเคชันที่จะช่วยเปลี่ยนประสบการณ์ด้านสุขภาพแบบเดิมๆให้เป็นประสบการณ์สุขภาพดิจิทัลล้ำสมัยตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านสุขภาพให้แก่ผู้ใช้บริการได้อย่างครบวงจรโดยแอปพลิเคชันดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงผู้ใช้บริการเป็นหลัก(User Experience)ตั้งแต่การดูข้อมูลแพทย์และนัดหมายแพทย์ออนไลน์ (Online Appointment) การแจ้งคิวเรียลไทม์ผ่านแอป(My Queue) การชำระเงินออนไลน์ (Payment) หรือดูข้อมูลสุขภาพ รายการยา และประวัติการรักษาย้อนหลัง (My History) พร้อมด้วยฟังก์ชั่นอื่นๆเช่นติดต่อหรือเรียกรถโรงพยาบาลได้ทันทีอุ่นใจเมื่อมีเหตุฉุกเฉินหรือรับส่วนลดและโปรโมชั่นของโรงพยาบาลสมิติเวชเป็นต้น

 

  1. SamitivejFastPayคือประสบการณ์ใหม่ของการชำระเงินที่ให้ความสะดวกและรวดเร็วช่วยประหยัดเวลาในการรอคิวชำระเงินผ่านช่องทางปกติเนื่องจากผู้ใช้บริการสามารถชำระเงินได้ด้วยตัวเองง่ายๆด้วย1) การสแกนคิวอาร์โค้ดณจุดFastPay Stationหรือ 2) ชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านแอปSamitivej Plusและสามารถนำใบเสร็จรับเงินที่ได้รับทางอีเมลไปรับยาได้ทันทีโดยผู้ใช้บริการที่ชำระเงินผ่าน2 ช่องทางนี้จะได้รับส่วนลด 10% สำหรับค่ายาค่าX-Ray และLab ตามเงื่อนไขของโรงพยาบาลและได้รับส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมหากชำระเงินผ่านบัตรเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธ.ค. 2561

###





Click to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

To Top