แอพสอนภาษาอังกฤษที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เปิดคอร์สสอนภาษาอังกฤษให้คนไทยเรียนฟรี
Duolingo (ดิวโอลิงโก) แอพพลิเคชั่นสำหรับเรียนภาษาอังกฤษฟรีที่ได้รับความนิยมสูงสุดและเป็นแอพเพื่อการศึกษาที่มียอดดาวน์โหลดมากที่สุดในโลก ได้ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในวันนี้ โดยแจกคอร์สเรียนภาษาอังกฤษฟรีให้กับคนไทย โดยผู้เรียนสามารถเรียนการอ่าน การเขียน และการพูดภาษาอังกฤษโดยอาศัยบทเรียนสนุกๆ เหมือนกับการเล่นเกมส์ผ่านแอพดิวโอลิงโก โดยสามารถดาวน์โหลดแอพดิวโอลิงโกได้ฟรีผ่านทาง App Store and Google Playและผ่านทาง Duolingo.com
ดิวโอลิงโกมีความโดดเด่นอยู่ที่ให้บริการการเรียนการสอนฟรี มีวิธีการสอนเหมือนเล่นเกมส์ และแบ่งเนื้อหาออกเป็นบทเรียนย่อยๆ ที่สามารถเรียนรู้ได้ในขณะเดินทางแค่วันละ 5 – 10 นาที ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา อีกทั้งยังไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแพงๆในการเรียนภาษาอีกด้วย โดยในขณะนี้มีผู้ใช้งานดิวโอลิงโกแล้วกว่า 170 ล้านคนทั่วโลก
“ทั่วโลกมีผู้ที่กำลังเรียนภาษาต่างประเทศอยู่ประมาณ 1,200 ล้านคน โดยในจำนวนนั้น มีประมาณ 800 ล้านคนที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษเพื่อสร้างโอกาสในการทำงานในอนาคตและเพื่อเปิดโอกาสที่ดียิ่งขึ้นให้กับชีวิต” ลูอิส วอน อาห์น (Luis von Ahn) CEO และผู้ก่อตั้งดิวโอลิงโกกล่าว “เราสร้างดิวโอลิงโกขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการเรียนภาษาได้ฟรี และในขณะนี้ เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้นำเสนอคอร์สเรียนภาษาอังกฤษทางออนไลน์ฟรีให้กับคนไทยเป็นครั้งแรก เราหวังว่าคอร์สภาษาอังกฤษของเราจะช่วยเปิดโอกาสทางการศึกษาและเปิดโอกาสในการทำงานใหม่ๆ ให้กับคนไทย และในขณะเดียวกันก็จะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่สนุกสนานควบคู่กันไปด้วย”
คอร์สเรียนภาษาอังกฤษดิวโอลิงโกสำหรับคนไทยเป็นโปรแกรมเรียนภาษาอังกฤษฟรีแห่งแรกในประเทศไทย โปรแกรมนี้จัดทำขึ้นโดยทีมงานอาสาสมัครที่มีความรู้ความชำนาญในทั้ง 2 ภาษา รวมถึงคุณทรงพล กลับวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีบริษัทซอฟท์แวร์แห่งหนึ่งในกรุงเทพซึ่งเคยเป็นอาจารย์สอนวิชาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
“ตอนที่ผมเป็นอาจารย์อยู่ ผมสังเกตเห็นว่าอุปสรรคในเรื่องภาษาเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งของนักศึกษาในการค้นหาประสบการณ์การเรียนรู้ และผมก็เลยสนับสนุนให้นักศึกษาเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ” คุณทรงพลกล่าว “ตอนที่ผมรู้ว่าดิวโอลิงโก กำลังพัฒนาหลักสูตรการเรียนภาษาอังกฤษสำหรับคนไทย ซึ่งนั่นคือแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมตัดสินใจเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตร ตัวผมเองก็หวังว่าคงจะช่วยส่งเสริมให้คนไทยได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษครับ”
สำหรับคนไทยที่อ่าน เขียน และพูดภาษาอังกฤษได้อยู่แล้วนั้น ในปัจจุบันนี้ ดิวโอลิงโกมีหลักสูตรการเรียนภาษา 22 หลักสูตร โดยมีแผนงานที่จะเพิ่มเติมภาษาญี่ปุ่น เกาหลี รวมไปถึงภาษาคลิงงอน (Klingon) ซึ่งเป็นภาษาต่างดาวจากภาพยนตร์ Star Trek ในปีนี้ด้วย
ดิวโอลิงโกมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองพิตส์เบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยได้ระดมทุนจำนวน 83.3 ล้านเหรียญสหรัฐในธุรกิจร่วมลงทุนจากนักลงทุน ได้แก่ Google Capital, Union Square Ventures, New Enterprise Associates, Kleiner Perkins รวมไปถึงนักแสดงฮอลลีวู้ดอย่าง แอชตัน คุชเชอร์ และนักเขียนชื่อดังระดับโลกอย่าง ทิม เฟอร์ริสส์
ดิวโอลิงโกสามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ทั้งระบบ Android, iOS, Windowsและใช้งานผ่านเว็บไซต์โดยสามารถสลับเปลี่ยนระหว่างระบบปฏิบัติงานได้โดยไม่มีสะดุด
เกี่ยวกับดิวโอลิงโก
- ดิวโอลิงโกเป็นวิธีการเรียนภาษาทางออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด จากข้อมูลสถิติ มีจำนวนผู้ที่เรียนภาษาผ่านทางดิวโอลิงโกในสหรัฐอเมริกามากกว่าผู้เรียนภาษาในระบบโรงเรียนรัฐบาลของทั้งสหรัฐอเมริกา
- พันธกิจของเราคือ ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการเรียนภาษาได้ฟรี
- ผู้ใช้งานมีจำนวนรวมทั้งสิ้นกว่า 170 ล้านคนทั่วโลก โดยมีผู้ใช้งาน25 ล้านคนที่ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน
- สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ทั้งระบบ Android, iOS, Windowsและใช้งานผ่านเว็บไซต์ โดยสามารถสลับเปลี่ยนระหว่างระบบปฏิบัติงานได้โดยไม่มีสะดุด
- บริษัทฯ ได้ระดมทุนรวมทั้งสิ้นจำนวน 3 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการระดมรอบล่าสุด (Series D) ได้รับเงินทุนจาก Google Capital โดยมีผู้ร่วมลงทุนรายอื่นๆ ได้แก่ Union Square Ventures (ซึ่งเป็นผู้ลงทุนในบริษัทอย่างเช่น Twitter เล่นTumblr), Kleiner Perkins Caufield& Byers, New Enterprise Associates, ทิม เฟอร์ริสส์ และแอสตัน คุชเชอร์
- Luis von Ahn (CEO) และSeverin Hacker (CTO) เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท
- Luis von Ahn(ลูอิส วอน อาห์น)เป็นนักธุรกิจชาวกัวเตมาลาและเป็นอาจารย์ด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้น CAPTCHA/reCAPTCHAเป็นผู้สร้าง TED talk ยอดฮิต และได้รับรางวัล MacArthur “Genius” หลังจากที่ขายบริษัท 2 แห่งให้กับGoogle ในช่วงวัย 20 เขาก็ตัดสินใจว่าจะทุ่มเทชีวิตให้กับการพัฒนาด้านการศึกษาและช่วยให้คนทุกระดับชั้นในสังคมได้มีโอกาสในชีวิตที่ดีขึ้นด้วยการเรียนรู้
เกียรติประวัติ
- ได้รับเลือกจาก Apple ให้เป็น iPhone App of the Year เมื่อปี 2556 โดยเป็นแอพเพื่อการศึกษาหนึ่งเดียวที่ได้รับเลือก
- ได้รับเลือกจาก Google ให้เป็น Best of the Best for Android เมื่อปี 2556 และ 2557
- เป็นแอพในหมวดหมู่ “การศึกษา” ที่มียอดการดาวน์โหลดสูงสุดทั้งในระบบ Android และiOS ทั่วโลก
- อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ บารัค โอบามา ได้เชิญดิวโอลิงโกให้ไปเยือนทำเนียบขาวเมื่อปี 2558
เหตุใดดิวโอลิงโกจึงโดดเด่น
- สามารถเรียนดิวโอลิงโกฟรี 100%
- ออกแบบมาให้รู้สึกเหมือนกับเล่นเกมส์ โดยให้ผู้เรียนแข่งกับเพื่อนๆ สะสมคะแนน อัพเลเวล และได้รับเงินในเกมส์เพื่อใช้ซื้อไอเท็มโบนัส
- เป็นระบบอินเตอร์แอคทีฟโดยสมบูรณ์ โดยคุณจะต้องตอบคำถามก่อนถึงจะไปต่อได้ ดังนั้น จะไม่มีที่ว่างไว้ให้ฝันกลางวัน
- เนื้อหาแบ่งออกเป็น “บทเรียนย่อยๆ” ซึ่งใช้เวลาเรียนเพียงแค่ครั้งละ 5 นาที สามารถศึกษาได้ในระหว่างเดินทาง และเข้าได้กับตารางเวลาของทุกคน
- บทเรียนประกอบด้วย แบบฝึกหัดการอ่าน การเขียน การฟัง และการพูด
- ฟีเจอร์ใหม่ Chatbot (เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม 2559) ช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกพูดบทสนทนา โดยไม่ต้องกลัวว่าจะอายเหมือนกับเวลาที่พูดกับเจ้าของภาษาจริงๆ Chatbotsของดิวโอลิงโกไม่เหมือนกับ Chatbots อื่นๆ โดยของดิวโอลิงโกสามารถตอบรับและตอบสนองปฏิกิริยาได้มากกว่าพันรูปแบบ ยิ่งผู้ใช้งานมีปฏิสัมพันธ์กับมันมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งฉลาดขึ้นเท่านั้น
- ใช้ที่โรงเรียนก็ได้! มีครูกว่า 300,000 คนใช้งาน Duolingo for Schoolsในชั้นเรียน ซึ่งเท่ากับว่านักเรียนสามารถเล่นเกมส์บนมือถือในระหว่างเรียนได้และได้สนุกไปกับการทำการบ้านด้วย
เหตุใดดิวโอลิงโกจึงมีประสิทธิภาพสูง
- เราใช้ “การเรียนรู้ของระบบ” เพื่อจัดบทเรียนที่เหมาะสำหรับแต่ละคนโดยพิจารณาจากความก้าวหน้าในการเรียน อีกไม่นาน ทุกคนก็จะสามารถเข้าถึงการศึกษาที่แต่ก่อนมีแต่คนที่มีเงินจ่ายค่าติวเตอร์ส่วนตัวเท่านั้นถึงจะได้เรียน!
- ใช้เทคนิคการทดสอบ A/Bเพื่อค้นหาวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และมีแรงกระตุ้นอยู่เสมอ
- จากการศึกษาวิจัยอิสระของ City University of New Yorkพบว่า การเรียนผ่านทางดิวโอลิงโก34 ชั่วโมง จะเท่ากับการเรียนภาษาในระดับมหาวิทยาลัย 1 ภาคเรียนเลยทีเดียว
- มีผู้ที่เรียนภาษาผ่านทางดิวโอลิงโกจำนวนมากกว่าผู้เรียนภาษาในระบบโรงเรียนของทั้งสหรัฐอเมริกาด้วยซ้ำ