รายงานการตลาดโมบายล์ของ Opera Mediaworks เผยแนวโน้มสำคัญในปี 2559 นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้งานได้สำหรับผู้ลงโฆษณาที่มุ่งเน้นผลลัพธ์
ประเทศไทย, 25 กรกฎาคม 2559: Opera Mediaworks เปิดเผยข้อมูลจากรายงาน Mobile First Insights (MFI) สำหรับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (APAC) รวมถึงออสเตรเลีย อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม
รายงานดังกล่าวระบุว่า โฆษณาในแอพแซงหน้าช่องทางโมบายล์เว็บในเกือบทุกตลาดในเอเชีย-แปซิฟิก โดยอัตราการคลิกผ่าน (Click-through) บนแอพพบว่าอยู่ในช่วงระหว่าง 1.3 เท่า ถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับอัตราการคลิกผ่านบนโมบายล์เว็บในทุกตลาดที่สำรวจใน APAC ทั้งนี้ รายได้จากโฆษณาบนแอพแซงหน้าช่องทางโมบายล์เว็บในตลาดส่วนใหญ่ใน APAC โดยมากกว่าถึง 13 เท่าในสิงคโปร์และไทย มีเพียงอินเดียและอินโดนีเซียเท่านั้นที่รายได้จากโมบายล์เว็บยังคงสูงกว่า
นายวิคัส กูลาติ กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียของ Opera Mediaworks กล่าวว่า “เอเชีย-แปซิฟิกเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องสำหรับการใช้แอพและโฆษณาบนแอพ แนวโน้มบางอย่างที่พบนับเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เช่น การใช้งานเกมในอัตราที่สูง ซึ่งพบเห็นได้ในเกือบทุกตลาดในเอเชีย-แปซิฟิก แม้ว่าปัจจัยทางด้านวัฒนธรรม สังคม และเศรษฐกิจในแต่ละประเทศในภูมิภาคนี้จะมีความแตกต่างหลากหลาย เราหวังว่ารายงานฉบับใหม่นี้จะช่วยตอบสนองความต้องการของแบรนด์ต่างๆ รวมไปถึงเอเจนซี่ และผู้พิมพ์โฆษณา และนั่นคือข้อมูลที่องค์กรเหล่านี้จะตั้งหน้าตั้งตารอคอยในทุกๆ ไตรมาส เพราะให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์ และนำเสนอแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมซึ่งสามารถนำไปใช้กับธุรกิจ” เขากล่าวเพิ่มเติม
รายงานฉบับนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้นักการตลาดรับทราบแนวทางที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินการในสภาพแวดล้อมโมบายล์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และทำการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมสำหรับธุรกิจ
ประเด็นสำคัญเพิ่มเติมที่ระบุในรายงาน:
ผู้ใช้ใน APAC ใช้เวลาบนโมบายล์แอพมากกว่า
เกมและหมวดหมู่ความบันเทิง (ข่าว ศิลปะ ดนตรี) เป็นหมวดหมู่ที่ผู้ลงโฆษณา “ต้องซื้อ” หรือที่เรียกว่า “ระดับพรีเมียม” เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้ชมในระดับเดียวกับทีวี โดยเป็นหมวดหมู่แอพที่ผู้ใช้ใช้เวลาจำนวนมากอยู่ในนั้น เมื่อพิจารณาข้อมูลจาก 100 แอพสูงสุดที่ใช้แพลตฟอร์มโฆษณาโมบายล์ของ Opera เพื่อสร้างรายได้จากแทรฟฟิกข้อมูล เราพบว่าผู้ใช้อุปกรณ์พกพาแต่ละรายในเอเชีย-แปซิฟิกใช้เวลาราว 46 นาทีในแอพยอดนิยมแต่ละแอพ ซึ่งนานกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 30 นาที ระยะเวลาการใช้งานแต่ละเซสชั่นโดยเฉลี่ยของผู้ใช้อุปกรณ์พกพาในเอเชีย-แปซิฟิกอยู่ที่ 9.6 นาที ซึ่งนานกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 8.5 นาทีเช่นกัน
เกมครองอันดับหมวดหมู่โมบายล์แอพสูงสุดในประเทศส่วนใหญ่ใน APAC ตามจำนวนการเผยแพร่โฆษณา
หมวดหมู่เกมมียอดการเผยแพร่โฆษณาสูงสุดบนแพลตฟอร์มโฆษณาโมบายล์ของ Opera Mediaworks ในออสเตรเลีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม อย่างไรก็ตาม มีสองตลาดที่แสดงผลลัพธ์ที่ต่างออกไป นั่นคือ อินเดีย ซึ่งการใช้งานแอพกระจุกตัวอยู่ในหมวดหมู่ดนตรี วิดีโอ และสื่อ และอินโดนีเซีย ซึ่งประกอบด้วยเยาวชนที่มีความรู้ด้านเทคนิคเป็นจำนวนมาก จึงผลักดันการใช้แอพทางด้านเทคโนโลยีและการประมวลผลในอัตราที่สูง
อย่างไรก็ดี โฆษณาบนแอพเกมไม่จำเป็นต้องมีอัตราการแปรเปลี่ยนมาเป็นลูกค้า (Conversion Rate) หรืออัตราการคลิกผ่าน (Click-through Rate) สูงสุดเสมอไป โฆษณาบนแอพกีฬาและสุขภาพและการออกกำลังกายมีอัตราการแปรเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าที่สูงกว่าหมวดหมู่อื่นๆ ในประเทศส่วนใหญ่ใน APAC ยกเว้นออสเตรเลียที่ซึ่งโฆษณาบนแอพช้อปปิ้งมีอัตรา Conversion สูงกว่า
เทคโนโลยี SDK คือกุญแจสำคัญสำหรับการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย
รายงานฉบับนี้ระบุว่า เทคโนโลยีสามารถสร้างความแตกต่างระหว่างแคมเปญที่ขาดประสิทธิภาพในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายกับแคมเปญที่มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายอย่างถูกต้องแม่นยำ ผู้ลงโฆษณาที่ใช้แพลตฟอร์มโฆษณาโมบายล์ แทนที่จะทำงานกับบริษัทสื่อโดยตรง จะต้องมั่นใจในความแพร่หลายของ SDK เพื่อเพิ่มความเป็นไปได้ในการเข้าถึงผู้ชมที่เป็นกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง
SDK สำหรับโฆษณาโมบายล์จะช่วยปรับปรุงประสบการณ์เชิงสร้างสรรค์สำหรับลูกค้า “นี่เป็นเรื่องของการสร้างสัมพันธภาพภายใต้ความไว้วางใจระหว่างผู้เผยแพร่โฆษณาและผู้ลงโฆษณา ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการปรับปรุงประสิทธิภาพและสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่าตามดัชนีชี้วัดผลสำเร็จ (KPI) ของผู้ลงโฆษณา” กูลาติกล่าว
สร้างสรรค์เป็นพิเศษสำหรับโมบายล์
รายงานฉบับนี้บอกเล่าถึงแคมเปญโฆษณาทางโมบายล์สองแคมเปญที่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของงานสร้างสรรค์ที่ตรงตามวัตถุประสงค์ กล่าวคือ สร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับแพลตฟอร์มโมบายล์ ซึ่งมักจะใช้ประโยชน์จากความสามารถของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในอุปกรณ์พกพา
ผู้อ่านจะได้เรียนรู้ว่า:
* Hilton Hotels & Resorts ใช้วิดีโอ 360° เพื่อให้ผู้ใช้อุปกรณ์พกพาได้สัมผัสประสบการณ์ที่เต็มอิ่ม เสมือนอยู่ในสถานที่จริง ซึ่งช่วยเพิ่มยอดการจองที่พัก และขับเคลื่อนดัชนีชี้วัดผลการดำเนินงาน (KPI) อื่นๆ
* Stoli ใช้เอฟเฟ็กต์การสั่น เพื่อให้การเขย่ามาร์ตินี่ดูสมจริงมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ชมรู้สึกประทับใจและเล่นโฆษณาซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะรู้สึกสนุกกับแรงสั่นของอุปกรณ์ในมือ
